เกาหลีเหนือ สนับสนุนขีปนาวุธ ด้วย คริปโตเคอเรนซี ที่ถูกขโมย

เกาหลีเหนือ สนับสนุนโครงการขีปนาวุธ ด้วย คริปโตเคอเรนซี ที่ถูกขโมยไป

เกาหลีเหนือ ได้เปิดตัวโครงการทดสอบขีปนาวุธ ถึง 7 ครั้งในปีนี้ ซึ่ง เกาหลีเหนือ นั้นได้รับผลกระทบอย่างมากมาย จากการคว่ำบาตรของนานาประเทศ ล่าสุดนี้ทาง เกาหลีเหนือ กำลังหาทางสนับสนุนโครงการขีปนาวุธของตนเอง โดยได้แหล่งสนับสนุนมาจาก คริปโตเคอเรนซี ที่ขโมยมา 

มีหลักฐานที่น่าสงสัยอยู่มากมายที่ชี้ตัวว่า Hacker ในประเทศ เกาหลีเหนือ นั้น อาจจะขโมย คริปโตเคอเรนซี ไป ซึ่งตีแล้วเป็นมูลค่ามากกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 37 ล้านปอนด์ ในช่วงระหว่างปี 2020 ถึงกลางปี 2021 ตามรายงานของคณะผู้ตรวจสอบของสหประชาชาติ UN มีรายงานว่า ตัวเลขที่ได้เผยแพร่ไปนั้นอาจจะเป็นเพียงแค่การคาดการณ์ของตัวเลขซึ่งความเสียหายที่เกิดขึ้นจริง ๆ อาจจะอยู่ที่ราว ๆ  400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เลยทีเดียว สิ่งที่น่าสงสัยก็คือประเทศเกาหลีที่ถูกคว่ำบาตรจากนานาประเทศนั้นกลับมีเงินทุนพอที่จะสามารถสนับสนุนโครงการทดสอบขีปนาวุธของตัวเอง ได้ถึง 7 ครั้งในปีนี้ ครั้งล่าสุดนั้นดูเหมือนจะเป็นความสำเร็จของประเทศ เกาหลีเหนือ ที่สามารถยิงขีปนาวุธไปสูงถึง 20 กิโลเมตรและสามารถบินอยู่บน อากาศได้ถึง 30 นาที และคิดเป็นระยะทางทั้งสิ้น 800 กิโลเมตร และนี่เป็นสิ่งที่น่าสงสัยด้วยเช่นกันว่าเหล่าแฮกเกอร์อาชญากรนั้นอาจจะได้รับการสนับสนุนจากทางรัฐด้วยหรือไม่

เกาหลีเหนือ อาจเชื่อมโยงกับการขโมย Bitcoin ครั้งใหญ่

จากการรายงานของ ทีมสอบสวนของสำนักข่าวรอยเตอร์ ได้ส่งรายงานไปยังที่คณะกรรมการคว่ำบาตรของสหประชาชาติเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว พบว่าอาชญากร มุ่งเป้าหมายการแฮกไปที่สกุลเงินดิจิทัลหรือ คริปโตเคอเรนซี ซึ่งมีการค้นพบรายงานที่เชื่อมโยง เกาหลีเหนือ กับการขโมย bitcoin เพื่อเป็นกลไกในการหลีกเลี่ยงความเสียหายจากการคว่ำบาตรของนานาชาติ และรายงานนี้ได้เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2017 

ในปี 2019 ทางสหประชาชาติรายงานว่า เกาหลีเหนือ ได้รับเงินประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์เพื่อใช้สนับสนุนในโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของตนเอง แม้จะถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากนานาประเทศก็ตาม  ซึ่งโครงการเหล่านั้น ได้ถูกออกแบบมา เป็นอย่างดีและกำหนดให้มีการทำการวิจัยอย่างต่อเนื่องจึงไม่สามารถหา ข้อมูลเกี่ยวกับงานวิจัยเหล่านั้นได้มากพอ นักวิจัยเหล่านั้นได้เชื่อมโยงกับกลุ่ม Hacker ที่อาจจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล พวกเขาร่วมมือกันพยายามที่จะขโมยเงินจำนวน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากธนาคารบังกลาเทศในเดือนพฤษภาคม ปี 2017

บล็อกเชนถูกโจมตีจากแฮกเกอร์ชาว เกาหลีเหนือ

Chainalysis สำนักข่าวที่วิเคราะห์เกี่ยวกับข้อมูลบล็อกเชนได้ออกมากล่าวว่าในช่วงปี2021 ที่ผ่านมาได้มีการโจมตีจากทาง Hacker ชาว เกาหลีเหนือ อย่างน้อย 7 ครั้งบนแพลตฟอร์ม คริปโตเคอเรนซี และบนเทคโนโลยีบล็อกเชนต่าง ๆ 

ซึ่งการโจรกรรมทางดิจิทัลเหล่านั้น สามารถขโมยเงินไปได้เกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และเป็นการโจรกรรมบนโลก คริปโตเคอเรนซี ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นจากการโจรกรรมถึง 40% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า 

ทาง Chainalysis อีกว่าการโจรกรรมเหล่านั้นส่วนใหญ่ไม่ได้พุ่งเป้าไปที่ bitcoin แต่เป็น Ether ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอีกตัวหนึ่ง

การทดสอบขีปนาวุธล่าสุดของ เกาหลีเหนือ

การทดสอบขีปนาวุธล่าสุดของ เกาหลีเหนือ เกิดขึ้นหลังจากผู้นำ เกาหลีเหนือ คิมจองอึน เรียกร้องให้ประเทศสนับสนุนกองทัพด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอะไรก็ตาม

หลังจากนั้นทางประเทศ เกาหลีเหนือ ก็ได้ดำเนินการปล่อยขีปนาวุธหลายครั้งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งสถานที่ของโครงการทดสอบขีปนาวุธเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปทุกครั้งที่มีการเริ่มโครงการใหม่ ทำให้เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากขึ้น ในการที่จะสืบหาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการเหล่านั้น

จากการรายงานและการสื่อข้อมูลพบว่า เกาหลีเหนือ ได้ทดสอบขีปนาวุธร่อนแบบไฮเปอร์โซนิค ที่มีระยะพิกัดไกล ไปจนถึงขีปนาวุธที่สามารถปล่อยจากรถไฟและสนามบินได้อีกด้วย ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ก็เป็นสิ่งที่ชวนสงสัย แล้วต้องคอยติดตามกันว่า เกาหลีเหนือ นั้นอาจจะมีส่วนร่วมและอาจจะถูกเชื่อมโยงกับการก่ออาชญากรรมในโลก คริปโตเคอเรนซี ในหลาย ๆ ครั้งก็เป็นได้

แหล่งข่าว: new.sky.com