IMF กำลังศึกษาคดี เพื่อต่อต้านการนำ crypto มาใช้

IMF กำลังศึกษาคดี เพื่อต่อต้านการนำ crypto มาใช้

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( IMF ) ได้ระบุถึงความเสี่ยงทางการเงินที่มีนัยสำคัญจากการอนุญาตให้ใช้สกุลเงินดิจิทัล เนื่องจากอินเดียได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานพหุภาคีและสถาบันภายในประเทศเกี่ยวกับกรอบการกำกับดูแลที่วางแผนไว้ เจ้าหน้าที่ของรัฐกล่าวว่าทราบถึงการอภิปรายดังกล่าว

ปัจจุบันอินเดียไม่มีนโยบายเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงสกุลเงินดิจิทัล เช่น Bitcoin และ Ethereum การไม่มีนโยบายดังกล่าวทำให้ผู้คนสามารถเป็นเจ้าของและแลกเปลี่ยนสกุลเงินและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้ ทำให้รัฐบาลประกาศภาษี 30% สำหรับการทำธุรกรรมใด ๆ ก็ตามด้วยทรัพย์สินดิจิทัล 

การเจรจารอบปัจจุบันนี้คาดว่าจะนำไปสู่การปรึกษาหารือในอีก 6 เดือนข้างหน้า โดยมีเป้าหมายเพื่อช่วยให้อินเดียมีกรอบทางกฎหมายในการควบคุมสินทรัพย์ดิจิทัล

การตอบสนองของ IMF และธนาคารโลก เป็นปัจจัยสำคัญ

เจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังของอินเดียกำลังเจรจากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่าย เช่น IMF, World Bank, Reserve Bank of India และ Securities and Exchange Board of India ( Sebi ) ตามที่เจ้าหน้าที่รัฐบาลอินเดียคนหนึ่งกล่าวไว้ข้างต้น กระทรวงการคลังได้ปฏิเสธการใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์

ในขณะที่ IMF ไม่ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับการหารือเฉพาะกับอินเดีย หัวหน้าเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของอินเดีย Nada Choueiri กล่าวว่าสินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโตนั้นมีความเสี่ยงที่มีนัยสำคัญ รวมถึงเสถียรภาพทางการเงินด้วย “สินทรัพย์คริปโตยังอาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดสำหรับการฟอกเงิน การจัดหาเงินทุนของผู้ก่อการร้าย และกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ หากไม่มีการบังคับใช้มาตรการด้านกฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพ ระบบนิเวศของสินทรัพย์ดิจิทัลอาจเผชิญกับความท้าทายด้านการคุ้มครองผู้บริโภคที่ร้ายแรง เช่น การฉ้อโกงและการโจมตีทางไซเบอร์” 

เธอเสริมว่า IMF กำลังหารือกับประเทศอื่น ๆ ในประเด็นนี้เช่นกัน เนื่องจากจำเป็นต้องมีความเข้าใจจากพหุภาคีหรือความร่วมมือเพื่อนโยบายที่มีประสิทธิภาพ

เอกสารที่เกี่ยวกับคำปรึกษาของกระทรวงการคลังจะครอบคลุมถึงวิธีจัดการกับสกุลเงินดิจิทัล ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง และการปฏิบัติต่อสินทรัพย์ประเภทนี้ ซึ่งจะเป็นพื้นฐานสำหรับนโยบายที่จะควบคุมมัน

“เราได้ร่างเอกสารให้คำปรึกษาเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล ตอนนี้เราได้ติดต่อกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสถาบันทั้งในประเทศและนอกประเทศแล้ว เรากำลังนำข้อมูลจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลกมารวมเข้าด้วยกัน เราจะอัปเดตเอกสารการปรึกษาหารือตามนั้น และจากการตอบสนองของ RBI, SEBI เราจะนำมาพิจารณา” เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกล่าว 

แหล่งข่าว: livemint.com