เหตุการณ์ Rug Pull ในโลก Game-Fi

รวบรวมเหตุการณ์ Rug Pull แสนน่าเจ็บใจในวงการ Game-Fi

ในช่วงปลายปี 2021 เป็นช่วงที่เรียกได้ว่าเป็นยุคทองของ Game-Fi และเป็นของขวัญปีใหม่ให้นักลงทุนน้อยใหญ่ในวงการ ด้วยความที่ไม่ว่าจะลงทุนในเกมไหน ก็ได้กำไรกันไปหมด แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น ทีมผู้พัฒนา Rug Pull เกมไม่สามารถนำ Reward Pool มาจ่ายให้กับผู้เล่นได้อย่างเพียงพอ หรือแม้แต่อาการ Panic ของนักลงทุน ที่เทขายจนมูลค่าของ Token ตกลงจนไม่คุ้มค่าแก๊ส วันนี้ทาง Cryptoaday ได้รวบรวมเหตุการณ์สุดเจ็บแสบในวงการ Game-Fi มาให้รับชมกัน

รู้จักกับคำว่า rug pull คือ อะไร rug pull แปลว่า อะไร ?

Rug Pull หรือปรากฏการณ์ ‘ล้มทั้งยืน’ เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในวงการคริปโตเคอเรนซี มักเอาไว้เรียกเหตุการณ์ที่นักลงทุนถูกเจ้าของโปรเจคเทขายเหรียญใส่ก่อนเชิดเงินหนี หรือถูกเจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi หรือ Game-Fi ปิดแพลตฟอร์มหนี เป็นต้น

Rug Pull แปลตรงตัวได้ว่า “การดึงพรม” เปรียบเทียบเหตุการณ์ที่นักลงทุนล้มทั้งยืนอย่างรุนแรงภายหลังถูกดึงพรม ( พรมคือ Liquidity Pool หรือสภาพคล่อง ) ออกไป

Monster Grand Prix

Monster Grand Prix โดน Rug Pull

อีกหนึ่งเกมสุดฮิตที่มีการชักชวนจำนวนมากใน Community ของเกมเมอร์ชาวไทย ด้วยการที่ Monster Grand Prix มีระบบ Referral ที่เราจะได้ส่วนแบ่งจากการชักชวนเพื่อนมาเล่นเกม จนเราจะเห็นมีคนแปะลิงก์ Referral เป็นจำนวนมาก อยู่ช่วงนึงเลยทีเดียว และด้วยความที่ตัวเกมออกแบบมาให้มีระยะเวลาการคืนทุนที่ค่อนข้างไว เพียงไม่กี่ 10 วันก็คืนทุนแล้ว รวมไปถึงตัวเกมเป็นระบบ Oracle ที่มูลค่าของเหรียญจะถูกตรึงไว้ และเมื่อคนแห่เข้าไปเล่นมากขึ้น ก็ส่งผลให้ตัวเกมต้องจ่าย Reward ออกมามากยิ่งขึ้น ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรเลยหาก มูลค่าของเหรียญอยู่ในช่วงขาขึ้น และหากเกมเข้าสู่ช่วงขาลง มันคือหายนะชัด ๆ จนในที่สุด Reward Pool ก็หมดลง และเป็นอันปิดฉาก Monster Grand Prix ให้เหลือเพียงชื่อเท่านั้น

BNB Heroes

ก่อนจะเกิดเหตุ Rug Pull ขึ้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่ตัวเกมดูดีมีอนาคตมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการประกาศ Add Token เข้าบนกระดาน Exchange และการวาง Roadmap เพิ่มเติม แต่ทางผู้พัฒนากลับมีการปรับเปลี่ยนตัวเกมโดยไม่แจ้งผู้เล่นอยู่บ่อยครั้ง รวมไปถึงการอัปเดตด่านใหม่เข้ามา ที่มีผลตอบแทนสูงมากถึง 3 BNB แต่มีอัตราการชนะน้อยนิด โดยมีหลายส่วนวิเคราะห์ว่าทางผู้พัฒนาได้ทำการเขียน Code ให้ไอดีของตัวเองชนะบอสตัวใหม่นี้ 100% และค่อย ๆ ดึง Reward Pool ออกไปเรื่อย ๆ เรียกได้ว่าภายใน 1 ชั่วโมงเท่านั้น จาก 90,000 BNB จนเหลือ 0 BNB กันเลยทีเดียว ซึ่งทางผู้พัฒนาก็ได้ออกมาชี้แจงว่าไม่ได้มีการ Rug Pull เกิดขึ้น และมีการปรับเปลี่ยน Reward ด้วย แต่หลังจากนั้นไม่นานตัวเกมก็ปิดบริการลง พร้อมกับฝากข้อความไว้ให้ผู้เล่นได้เจ็บแสบกันจนถึงทุกวันนี้ อย่างการส่งรูปฟันทอง ไปในกลุ่ม Discord และบอกว่า นี่คือฟันของตัวเอง เป็นการ Rug Pull ครั้งหนึ่งที่เจ็บจี๊ดดดด

Cryptomine

Cryptomine

เรียกได้ว่าเป็นกระแสสุดโด่งดังจนมีสื่อในโทรทัศน์นำไปทำข่าวมากมาย อย่าง Cryptomine ที่เป็นตัวจุดกระแส Game-Fi ในบ้านเราอีกเกมหนึ่งเลย รวมไปถึงเป็นเกมที่มอบประสบการณ์สุดขื่นขมให้นักลงทุนน้อยใหญ่หลายราย โดยเหตุการณ์เริ่มจากแรง FOMO ที่สูงมาก จากราคาเหรียญประมาณ 2,000 ในระยะเวลา 1 เดือนกลับขึ้นไปกว่า 23,000 บาท และไม่มีทีท่าว่าจะลงเลย แต่แล้วจู่ ๆ คืนนึง กราฟราคาเหรียญกลับหักหัวลงมาอยู่ที่ประมาณ 15,000 บาท ในไม่กี่ Transection จนทำให้หลาย ๆ คนเริ่ม Panic และเทขายเหรียญกันเป็นจำนวนมาก จนกราฟขยับลงมาเรื่อย ๆ จนในที่สุด Liquidity Pool ก็หมดลง ซึ่งทางผู้พัฒนาก็มีการพยายามแก้ไขเหตุการณ์อยู่หลายต่อหลายครั้งแต่ก็ไม่สำเร็จ จนต้องออกมายอมแพ้และปิดปรับปรุงตัวเกมไปในที่สุด แต่จากเหตุการณ์ครั้งนี้ก็มีนักลงทุนจำนวนไม่น้อยที่มองว่า คนที่เทขายเหรียญก่อนที่ราคาจะตก คือตัวผู้พัฒนาเอง ที่พยายามจะ Soft Rug ไปเรื่อย ๆ แต่ก็มีบางส่วนที่มองว่าเป็นวาฬเทขายมากกว่า จุดนี้ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันว่าสาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่

เหตุการณ์แบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่เราไม่สามารถควบคุมมันได้เลยจริง ๆ ทำได้เพียงศึกษาข้อมูลให้ดี ดูความน่าเชื่อถือต่าง ๆ จนเรามั่นใจว่าอยากลงทุนกับเกมนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะไปฟังคนอื่นมาว่าได้เงินเยอะ แล้วก็อยากจะได้บ้าง เพราะใน Money Game คนที่มีความรู้และความพร้อมมากกว่าคือผู้ชนะเสมอ เพราะฉะนั้นก่อนลงทุน อย่าลืม DYOR ( Do Your Own Research ) ก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ