เลือกลงทุน หุ้นหรือคริปโต

ถ้าหากคุณเป็นนักลงทุน จะเลือกลงทุนในหุ้นหรือคริปโต

ก่อนหน้านี้ ในวงการตลาด นักลงทุน จะมีคำแนะนำที่มีให้กับ นักลงทุน รุ่นใหม่และผู้ที่เพิ่งเข้ามาในวงการ คริปโต ว่า “ถ้าอยากลงทุน ให้ไปเล่นหุ้น” หลังจากผ่านมามากกว่า 10 ปี ของ Bitcoin วงการ คริปโต เริ่มเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ คำแนะนำก็เริ่มเปลี่ยนไป ในปัจจุบันนี้ ตลาด cryptocurrency ได้รับความสนใจจากบรรดา นักลงทุน เป็นอย่างมาก ถือเป็นตลาดของ นักลงทุน รุ่นใหม่อย่างมากหน้าหลายตา

ทั้งเนื่องมาจากกระแสของสื่อทั้งหลายเอง ก็พยายามให้ข้อมูลอย่างรอบด้าน เพื่อเป็นแหล่งข้อมูลประกอบการตัดสินใจ และ นักลงทุน หน้าใหม่เอง ก็มีช่องทางในการรับข้อมูลที่หลากหลาย และเริ่มทำการลงทุนได้เองอย่างไม่ลำบากนัก อีกทั้งแม้แต่ นักลงทุน หน้าเก่าที่เคยลงทุนในหุ้นมาแล้ว ก็อาจจะทำการเรียนรู้และปรับตัวได้ง่ายขึ้น ในการเข้ามาลองลงทุนในตลาด คริปโต ที่อยู่ในกระแสดิจิทัลของการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค Web 3.0

มาดูกันว่า ระหว่างหุ้นกับ คริปโต ในแง่มุมของการลงทุน มีความเหมือนกันและความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง นักลงทุนควรระวังอะไรบ้าง

ความเหมือนกันของหุ้นและคริปโต

  • มูลค่าของสินทรัพย์มีการเปลี่ยนแปลงตามความต้องการของตลาด

มูลค่าทั้งของหุ้นและ คริปโต ขึ้นอยู่กับความต้องการซื้อของของ นักลงทุน ในตลาด  มูลค่าของสินทรัพย์จะสูงขึ้น เมื่อตลาดมีความต้องการซื้อสินทรัพย์นั้นมาก แต่มูลค่าก็จะลดลง หากตลาดมีความต้องการซื้อสินทรัพย์นั้นน้อยลง

จุดประสงค์ของ นักลงทุน ก็คือจะเลือกเข้าซื้อในช่วงราคาหนึ่ง และทำกำไรจากส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขาย โดยนักลงทุนต้องรอจังหวะเวลาหรือคำนวณเวลาไว้ เมื่อราคาสูงขึ้นในอนาคตก็ทำการขาย เรียกว่าเป็นการ “เก็งกำไร” (Speculation) นั่นเอง ซึ่งเป็นการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ที่มีการแกว่งของราคา 

  • พื้นฐาน ความสามารถและความเป็นไปได้ ของหุ้นและคริปโต

แนวการวิเคราะห์เลือกหุ้น ก็คือ บริษัทที่มีผลประกอบการดีและพื้นฐานมั่นคง มีความสามารถในการดำเนินโครงการต่าง ๆ ที่จะทำให้มีผลประกอบการดีในอนาคต มีเงินปันผล ทำให้เป็นที่ต้องการของนักลงทุน มีผลทำให้มูลค่าหุ้นในอนาคตสูงขึ้นได้ 

เช่นเดียวกับกับ แนวการวิเคราะห์เลือกเหรียญคริปโต ที่มีแนวคิดที่น่าสนใจ มีการเอาไปใช้งานได้อย่างกว้างขวาง มีความสามารถในการพัฒนาปรับปรุงในการใช้ได้จริง ก็ย่อมมีความต้องการซื้อในเหรียญนั้น ๆ ที่มากตาม

ความเป็นไปของทั้งตัวหุ้นและ คริปโต นี้นี่เอง ที่จะมีผลต่อความต้องการของตลาด ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทั้งในเชิงลบและเชิงบวก และมีการเปลี่ยนแปลงไปตามปัจจัยต่าง ๆ

  • สามารถทำการซื้อ – ขายผ่านแอปพลิเคชันได้ง่าย

ทั้งตลาดซื้อขายหุ้นและตลาดคริปโต มีการพัฒนาระบบและอำนวยความสะดวกให้กับ นักลงทุน สามารถทำการซื้อ – ขายผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ หรือบนคอมพิวเตอร์ผ่านเว็บไซต์ ได้ง่ายและสะดวก รวมไปถึงระบบอุปกรณ์เครื่องมือช่วยวิเคราะห์ต่าง ๆ เพิ่มเติม สามารถดูข้อมูล ความเคลื่อนไหวของราคา กราฟ รวมไปถึง Indicator ต่าง ๆ อีกด้วย

ความต่างกันของหุ้นและคริปโต

  • ความผันผวนของราคา

นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน ต่างมีความเห็นสอดคล้องกันว่า ตลาดคริปโต มีความผันผวนที่มากกว่าตลาดหุ้นหลายเท่าตัว

ทั้งนี้ อาจจะเป็นไปได้จากการที่ ตลาดหุ้นมีกฎเกณฑ์ในการซื้อขาย มี Ceiling ซึ่งถูกกำหนดว่าหุ้นตัวนั้น ๆ ควรมีการซื้อขายภายในวัน เพิ่มขึ้นได้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดวันก่อน และ Floor ก็ถูกกำหนดว่าหุ้นตัวนั้น ๆ ควรมีการซื้อขายลดลงได้ไม่เกิน 30% ของราคาปิดวันก่อน

ในขณะที่ตลาดคริปโต ไม่มีกฎเกณฑ์การซื้อขายดังกล่าว ราคาจึงสามารถเพิ่มขึ้น หรือลดลงได้เกินกว่า 30% และบางครั้งก็สามารถผันผวนเพิ่มขึ้นหรือลดลงเกือบ 100% เลยก็มี

  • การเกิดขึ้นของหุ้นและเหรียญคริปโต

เนื่องจากมีการกำกับอยู่จาก ก.ล.ต. ในขณะที่บริษัทที่มีอยู่จริงตามกฎหมาย มีความต้องการที่จะทำการขายหุ้นออกสู่สาธารณะ ต้องทำการผ่านกระบวนการต่าง ๆ มากมายในการประเมินความเสี่ยง จนกระทั่งสามารถออกหุ้นนั้น ๆ มาสู่ตลาดหุ้นได้ จัดได้ว่ามีจำนวนที่ค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับบริษัทที่มีอยู่ทั่วไป

ต่างจากตลาดคริปโต ที่ยังไม่มีการกำกับดูแลโดยกฎหมาย เหรียญคริปโตที่เห็นกันอยู่ในตลาดนั้น ถูกสร้างขึ้นแบบ Open-source นั่นก็หมายความว่า ผู้ที่มีความรู้ด้านการเขียนโปรแกรม จะสามารถทำการคัดลอก Source Code และไปทำการสร้างเป็นเครือข่าย แล้วสร้างเหรียญคริปโตสกุลใหม่ขึ้นได้ ด้วยระยะเวลาที่รวดเร็ว และไม่ถูกจำกัดหรือมีการกำกับควบคุมดูแล เราจึงสามารถเห็นเหรียญคริปโตนับเป็นพัน ๆ สกุลเกิดขึ้นไปแล้วในตลาดแห่งนี้

  • เวลาในการซื้อขาย

ตลาดหุ้นสามารถทำการซื้อขายได้เฉพาะช่วงที่ตลาดหุ้นเปิดทําการเท่านั้น หยุดเสาร์อาทิตย์ และวันหยุดประจําชาติ ขณะที่ตลาด คริปโต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ที่ไม่มีตัวกลาง ไม่มีที่ทำการบริษัท จึงมีการซื้อขายเกิดขึ้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ และไม่มีวันหยุดใด ๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง

  • ความรับผิดชอบในด้านความปลอดภัยของทรัพย์สิน

นักลงทุน ในตลาดหุ้นมีบริการของโบรกเกอร์ช่วยดูแลและอำนวยความสะดวกในด้านการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ ถึงแม้มีปัญหา ทางบริษัทเองก็สามารถทำการแก้ปัญหาให้กับ นักลงทุน ได้ ต่างจากการเทรด คริปโต นักลงทุน ต้องมีความสามารถในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการจัดการ การซื้อขาย รวมไปถึงการดูแลรักษา กระเป๋าเงินคริปโต ด้วยตัวเอง ทุกวันนี้ มีข่าวการแฮก การโจรกรรมเงินของตลาด คริปโต มาตลอด นับเป็นหนึ่งในความเสี่ยงที่ควมคุมได้ยาก

นักลงทุน คริปโต ควรยอมรับได้ในเรื่องต่อไปนี้

หากจะว่าโดยนัยแล้ว การลงทุนใน คริปโต ก็เหมือนการลงทุนในหุ้น ที่มีความรุนแรง ความเข้มข้น และต้องการความสามารถของ นักลงทุน ที่มากขึ้น ซึ่งนักลงทุน คริปโต ควรจะสามารถยอมรับได้ในเรื่องต่อไปนี้

  • สามารถรับความผันผวนของราคาได้สูงมาก เพราะตลาด คริปโต จะเน้นไปในทางการเก็งกำไร รวมไปถึงการยอมรับการสูญเสียของเงินลงทุนได้ เพราะมีโอกาสสูญเสียเงินลงทุนทั้งก้อน รวมไปถึงความเสี่ยงในกรณีที่มีการแฮกหรือโจรกรรมกระเป๋าเงินไปได้
  • ควรมีเวลาในการติดตามบัญชีลงทุน คริปโต อย่างสม่ำเสมอ ข้อมูลข่าวสาร ซึ่งมีผลต่อราคาของเหรียญ คริปโต มีการเปลี่ยนแปลงได้อยู่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง ไม่มีวันหยุด ต้องตื่นตัวอยู่เสมอ
  • มีความสามารถในการใช้ IT ในระดับที่สามารถดูแลปกป้องความปลอดภัยของระบบกระเป๋าเงิน คริปโต ได้ หรือลงทุนเพิ่มเกี่ยวกับอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เป็นตัวช่วย

จากสถิติที่ผ่านมาแล้ว การลงทุนในตลาด คริปโต สามารถให้ผลตอบแทนได้มากกว่าตลาดหุ้น แต่ก็ต้องยอมรับว่า ตลาด คริปโต มีความผันผวนและความไม่แน่นอนสูง นักลงทุน คริปโต จึงควรมีความเข้าใจเกี่ยวกับการลงทุนในเหรียญต่าง ๆ ให้ดีก่อนตัดสินใจทำการลงทุน และควรจัดสรรแบ่งสัดส่วนเงินลงทุน เพื่อกระจายความเสี่ยงและบริหารเงินลงทุนให้ดี และสามารถยอมรับได้ในสถานการณ์ที่อาจไม่คาดคิดเกิดขึ้น