กฎหมายจะอนุญาตให้ประธานาธิบดีของบราซิล มีอำนาจในการกำหนดหรือสร้างหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อดูแลตลาด บิทคอยน์ และ คริปโตเคอเรนซี ได้เป็นการเปิดแนวทางการเงินใหม่ของประเทศบราซิล หลังจากวิกฤตทางการเงินที่เกิดขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาค่าเงินในประเทศตกต่ำลงอย่างมาก ประชาชนจึงต้องการให้มีการลงทุนทางเลือกอย่าง คริปโตเคอเรนซี เข้ามาทดแทน

กฎหมาย บิทคอยน์ ในประเทศบราซิลกำลังเริ่มต้นขึ้น

ร่างกฎหมายควบคุมตลาดสกุลเงินดิจิทัลในบราซิลคาดว่าจะได้รับการอนุมัติจากสภาแห่งชาติในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ ตามรายงานของ Cointelegraph

กฎหมายซึ่งได้รับการถกเถียงกันในสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ปี 2558 ได้รับการอนุมัติในการพิจารณารอบแรก สมาชิกวุฒิสภาได้แนบมันเข้ากับร่างกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกับการเงินคริปโตเคอเรนซี ซึ่งได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการกิจการเศรษฐกิจของวุฒิสภาแล้ว

สมาชิกสภานิติบัญญัติสองคนคือ Irajá Abreu และ Aureo Ribeiro ซึ่งเป็นผู้รายงานของข้อเสนอดังกล่าวในสภานิติบัญญัติของตน และได้ทำการร่างข้อความที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างกฎหมายที่จะถูกส่งไปยังการลงคะแนนเสียงของวุฒิสภาโดยสมบูรณ์ต่อไป

Irajá ยังชี้ให้เห็นว่าประธานวุฒิสภา Rodrigo Pacheco คาดว่าจะนำร่างกฎหมายแบบครบวงจรไปสู่การลงคะแนน ในเดือนเมษายน

“ด้วยการเข้าร่วมโครงการต่าง ๆ ร่วมกัน เราเร่งการอนุมัติกฎหมายของสกุลเงินดิจิทัลนี้ ให้ทันความต้องการของตลาดสำหรับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น และความจำเป็นในการจัดการด้านการป้องกันอาชญากรเพื่อหลีกเลี่ยงการฉ้อโกง นอกเหนือจากนั้นก็จะเป็นการปรับบราซิลให้เข้ากับข้อตกลงระหว่างประเทศ”

ในตอนเริ่มต้นนี้ บิทคอยน์ จะยังไม่ถูกกฎหมายทั้งหมดเหมือนในเอลซัลวาดอร์

กฎหมายเกี่ยวกับ บิทคอยน์ และสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เสนอจะอนุญาตให้ประธานาธิบดีบราซิลกำหนดหน่วยงานของรัฐบาลกลางที่รับผิดชอบในการจัดตั้งกฎเกณฑ์สำหรับเงินสกุลดิจิทัล ประธานาธิบดีจะสร้างหน่วยงานกำกับดูแลใหม่หรือมอบหมายหน้าที่นี้ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( CVM ) หรือธนาคารกลางของบราซิล ( BC ) เป็นผู้ดำเนินการอย่างเป็นทางการต่อไปก็ได้เช่นกัน

หน่วยงานกำกับดูแลจะรับผิดชอบในการกำหนดแนวทางการตลาดและกำหนดบรรทัดฐานให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากลเพื่อป้องกันการฟอกเงินและการปกปิดทรัพย์สิน

ร่างกฎหมายนี้ยังได้มีการเสนอบทลงโทษจำคุก 4 – 8 ปี นอกเหนือจากค่าปรับสำหรับผู้ที่กระทำการฉ้อโกงในการให้บริการสินทรัพย์ดิจิทัลไว้

อีกประเด็นที่เน้นในร่างกฎหมายนี้ ก็คือการสร้างแรงจูงใจสำหรับนักขุดคริปโตเคอเรนซีเพื่อให้เข้ามาเปิดบริการในบราซิลมากขึ้น เสนอให้ยกเว้นการนำเข้า ASICs ไปยังประเทศแบบปลอดภาษีได้ อย่างไรก็ตาม นี่อาจไม่เพียงพอที่จะล่อให้นักขุด บิทคอยน์ เข้ามาในประเทศได้มากนัก หากอัตราพลังงานในบราซิลอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในอเมริกาใต้และสูงกว่าในประเทศอย่างปารากวัยและเวเนซุเอลาประมาณห้าเท่า จะต้องมีการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมาเพื่อใช้ในการทำเหมืองขุด บิทคอยน์ ให้ได้เหมือนประเทศอื่น ๆ เพื่อเป็นแรงจูงใจที่ดีมากขึ้น ถ้าหากว่าทำได้โอกาสที่บราซิลจะสร้างธุรกิจเกี่ยวกับการขุดเหมือง บิทคอยน์ จะเติบโตมากขึ้นได้กว่าประเทศเอลซัลวาดอร์อย่างแน่นอน