DeFi หรือ Decentralized Finance เป็นรูปแบบบริการทางการเงินแบบกระจายอำนาจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในเวลานี้ จากที่เห็นได้จากหลาย ๆ บล็อกเชนนั้นได้มีบริการทางการเงินในรูปแบบนี้มาเพื่อให้บริการแก่สมาชิกที่ลงทุนในบล็อกเชนเพื่อเพิ่มงบและสภาพคล่องต่าง ๆ แล้วได้รับผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยรายปี ( APY ) แต่จริง ๆ แล้ว DeFi นั้นเป็นการกระจายอำนาจ จริงหรือไม่

DeFi นั้นไม่ได้มีความกระจายอำนาจเลยในตอนนี้

Samson Mow อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Blockstream เชื่อว่าโปรโตคอล DeFi ไม่สามารถแข่งขันกับ บิทคอยน์ ในฐานะเครือข่ายการเงินได้ เนื่องจากขาดการกระจายอำนาจ

Samson Mow เชื่อว่าโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจส่วนใหญ่ไม่สามารถแข่งขันกับ บิทคอยน์ ได้ เมื่อพูดถึงการจัดการเครือข่ายการเงินที่มีประสิทธิภาพเนื่องจากขาดการกระจายอำนาจซึ่งเป็นรูปแบบสำคัญของ คริปโตเคอเรนซี ที่มีความตั้งใจอยากให้เป็น

ตามที่ Samson Mow ชี้ให้เห็น โครงการ DeFi ถูกควบคุมโดยหน่วยงานที่สามารถปรับเปลี่ยนโปรโตคอลได้ตามต้องการ

“บิทคอยน์ ในระดับพื้นฐานคือเงิน และมันควรจะเปลี่ยนไม่ได้” Samson Mow อธิบาย “ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนมันได้ตามต้องการ คุณก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าสกุลเงิน fiat ที่ควบคุมโดย Fed”

การกระจายอำนาจคือสิ่งสำคัญที่ต้องทำให้ได้

การกระจายอำนาจของ บิทคอยน์ ( BTC ) ทำให้ยากต่อการปรับเปลี่ยนโปรโตคอล ซึ่งเป็นเหตุผลที่ Mow มองว่าเป็นตัวเลือกที่ไม่เหมือนใครสำหรับการกลายเป็นระบบการเงินระดับโลกอย่างแท้จริง

Mow ชี้ให้เห็นว่าแม้จะมีความไม่เปลี่ยนรูปของเลเยอร์พื้นฐานของ บิทคอยน์ นักพัฒนายังคงสามารถสร้างแอปพลิเคชันบนบล็อกเชนของ บิทคอยน์ ได้ด้วยการทำงานร่วมกับโซลูชันของ Blockchain Layer 2

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Mow เป็นผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่งของ Lightning Network ได้มีมุมมองว่าเป็นส่วนช่วยที่ให้ทำธุรกรรม บิทคอยน์ ราคาถูกได้ทันทีและรวดเร็วขึ้น ด้วยการส่งเสริมเทคโนโลยี Lightning Network ของ บิทคอยน์ Mow พยายามเร่งเส้นทางของโลกการเงินคริปโตเคอเรนซีเข้าสู่ Hyperbitcoinization ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ผู้คนจะแลกเปลี่ยน บิทคอยน์ โดยไม่ต้องแปลงเป็นสกุลเงิน fiat

“Lightning Network จะเข้ามาแทนที่ Visa, Mastercard และทุกอย่าง” เขากล่าว “และช่วยลดต้นทุนสำหรับผู้ค้า ซึ่งหมายถึงประสบการณ์ที่ดีขึ้นและการประหยัดสำหรับผู้บริโภค”

โลกของ DeFi ยังคงต้องพัฒนาต่อไปหลังจากนี้

หลังจากมีมุมมองเกี่ยวกับ DeFi ออกมาในลักษณะนี้ซึ่งทำให้นักลงทุนนั้นก็ต้องกลับมาลองคิดดูว่าในปัจจุบันนี้ DeFi มีความกระจายอำนาจจริง ๆ หรือไม่ ถ้าดูจากมุมมองในปัจจุบันก็มีหลาย ๆ โปรเจกต์ DeFi นั้นถูกควบคุมอยู่จริง ๆ ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเลือกลงทุนกับโปรเจกต์นี้ ทำให้เป็นสิ่งที่นักลงทุนนั้นจะต้องระมัดระวังในการลงทุนอย่างมาก และในอนาคตนั้นการเงินแบบ DeFi นั้นจะต้องมีการพัฒนาต่อไปให้มากขึ้น ต้องการกระจายอำนาจมากขึ้นและการป้องกันต่าง ๆ นั้นจะต้องมีมาตรการในการจัดการให้ดีขึ้น จะเป็นสิ่งที่ช่วยส่งเสริมให้วงการการเงินคริปโตเคอเรนซี นั้นเติบโตได้อย่างยั่งยืน