Litecoin อาจถูกถอนจากแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ขนาดใหญ่เนื่องจากการอัปเดตที่เกิดขึ้นล่าสุด
ด้วยการอัปเดต MWEB Litecoin สกุลเงินดิจิทัล จะกลายเป็นเหรียญที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น และเน้นที่ความปลอดภัยบนเครือข่ายมากขึ้น ในขณะที่นักลงทุนคริปโตเคอเรนซีส่วนใหญ่ยินดีรับการอัปเดต แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน สกุลเงินดิจิทัล แบบรวมศูนย์และควบคุมในประเทศอย่างเกาหลีใต้ อาจเริ่มกระบวนการเพิกถอนเนื่องจากปัญหาทางกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น
ปัญหาหลักของการอัปเดตใหม่ซึ่งจะเปิดใช้งานในบล็อก 2257920 คือการปรับปรุงการรักษาความลับระหว่างผู้ส่งและผู้รับในธุรกรรม Mimblewimble Extension Blocks อนุญาตให้ผู้ใช้ส่งเหรียญไปยังบล็อกส่วนขยายและกลับไปที่เชนหลัก
การทำธุรกรรมด้วย Litecoin อาจจะ "เป็นความลับมากเกินไป"
พูดง่าย ๆ ก็คือ MWED เปิดโอกาสให้ส่งธุรกรรม “ที่เป็นความลับ” บนเครือข่ายที่ซ่อนจำนวนเงินที่ส่ง โดยพื้นฐานแล้วมันทำให้การติดตามจำนวนเงินที่ส่งเป็นไปไม่ได้ และไม่ต้องเสียภาษี โดยหน่วยงานในประเทศเช่นเกาหลีใต้ กำลังกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้ นักพัฒนายังเสริมด้วยว่าการอัปเดตช่วยเพิ่มปริมาณงานของเครือข่ายและความเร็วในการประมวลผลธุรกรรม
ฟังก์ชันที่คล้ายกับธุรกรรมที่ไม่ระบุตัวตนมีอยู่ใน สกุลเงินดิจิทัล Monero ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมในสภานิติบัญญัติของยุโรปและเอเชีย และถูกแบนโดยแพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยน สกุลเงินดิจิทัล แบบรวมศูนย์ส่วนใหญ่
Upbit อาจต้องเพิกถอน Litecoin
ตามประกาศของ Upbit แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนมักจะมองหาการป้องกันการฟอกเงิน ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการเพิกถอน Litecoin หากพวกเขาเห็นการฝากเงินผ่าน Mimblewimble
การแลกเปลี่ยนยังเสริมด้วยว่าการฝากเงินผ่านเทคโนโลยีใหม่จะนำไปสู่การสูญเสียเงินอย่างถาวร เนื่องจากการแลกเปลี่ยนจะไม่สามารถตรวจสอบจำนวนเงินที่ทำธุรกรรมหรือผู้ส่งได้
ในขณะที่ตำแหน่งของ Litecoin บน CEX ขนาดใหญ่นั้นมีความน่าสงสัย แพลตฟอร์มการแลกเปลี่ยนแบบกระจายอำนาจนั้นยินดีต้อนรับฟังก์ชันใหม่ที่ทำให้การซื้อขาย Litecoin มีความปลอดภัยและกระจายอำนาจมากขึ้น
ปัจจุบันทาง Litecoin ได้ถูกถอดออกจาก แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนชั้นนำมากมายแล้ว ทั้งทางด้าน Bitkub เองก็เช่นกัน เนื่องจากการอัปเดตดังกล่าว อาจส่งผลให้เกิดผลกระทบในหลายแง่ ก็เป็นเรื่องที่น่าจับตามองว่าความนิยมของ Litecoin นั้นจะตกลงหรือไม่หลังจากการอัปเดตในครั้งนี้
แหล่งข่าว: u.today.com