จากรายงานข่าวเผยว่า Ripple Labs ยังคงอยู่ในมรสุมของการฟ้องร้องคดีความทางกฎหมายกับสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งอาจจะยืดเยื้อก็เป็นได้ แต่ดูเหมือนว่า Ripple Labs จะมีความได้เปรียบเล็ก ๆ น้อย ๆ ในหลาย ๆ ครั้งได้มีการโต้แย้งได้ว่า XRP ไม่ใช่หลักทรัพย์ตามที่ SEC ได้กล่าวไว้นั่นเอง อย่างไรก็ตามสิ่งที่กล่าวมาในข้างต้นนี้อาจถูกยกเลิกโดยรายงานของทำเนียบขาวที่รอดำเนินการอยู่แล้วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้
SEC ฟ้องร้อง Ripple กรณี XRP
การรายงานข่าวของนักข่าว Fox Business, Charles Gasparino และ Eleanor Terrett ได้ทำการโพสทวิตล่าสุดโดยเปิดเผยจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับคดีของ SEC ที่ฟ้องร้องต่อ Ripple ซึ่งดูเหมือนว่าจะไม่ง่าย ซึ่งจะสามารถจัดให้ XRP เป็นหลักทรัพย์ได้ แหล่งข่าวนี้ยังให้ความเห็นต่ออีกว่า คดีความดังกล่าวอาจถูกสำนักงาน ก.ล.ต. สั่งระงับไปก่อนในฤดูร้อนปีนี้ก่อนที่จะเข้าสู่ทำเนียบขาวต่อไปนั่นเอง และเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมารัฐบาลที่นำโดย Biden ได้ออกมาเปิดเผยแผนการที่จะผ่านคำสั่งของผู้บริหารเกี่ยวกับ คริปโตเคอเรนซี ว่าเป็น “เรื่องความมั่นคงของชาติ” เลยทีเดียว
ผลกระทบต่อคดีในศาล ต่อ XRP
ชุมชน XRP ได้ตั้งข้อสงสัยในการพัฒนาใหม่ของ Ripple โดยพวกเขาได้ตั้งคำถามว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่คำสั่งของผู้บริหารจะล้มล้างคดีที่กำลังดำเนินอยู่” โดย Mickey B Fresh ผู้สนับสนุน XRP และ YouTuber ได้กล่าวต่ออีกว่าหลังจากการตรวจสอบและถ่วงดุลของรัฐบาลทั้งสามแล้วนั้น การพิจารณาคดีของผู้บริหารนั้นไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อคดีในศาลที่ดำเนินอยู่ได้ และยังมีผู้ใช้ Twitter นามว่า “TAIGxrp” ชี้ให้เห็นว่าทำเนียบขาวนั้นไม่มีอำนาจในการจัดประเภท XRP ให้เป็นหลักทรัพย์ในระหว่างที่คดีดำเนินการอยู่ได้
ก.ล.ต. กำลังต่อสู้กับ Ripple เรื่อง XRP
ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า คดีระหว่าง Ripple และ SEC ได้รับแรงกดดันบางอย่าง โดยมีคำวินิจฉัยที่สำคัญหลายประการเกี่ยวกับญัตติที่ทั้งสองฝ่ายที่ทำการยื่นฟ้อง ซึ่งในญัตติการตัดสินล่าสุดคือการปฏิเสธการเปิดผนึกเอกสารบางอย่างต่อสาธารณชนนั่นเอง เนื่องจากศาลได้ตัดสินว่าเอกสารนั้นมีการสื่อสารโดยผู้บริหาร Ripple กับบุคคลที่สาม และในก่อนหน้านี้ศาลมีคำพิพากษาว่าสำนักงาน ก.ล.ต. ต้องละทิ้งเอกสารที่ระบุไว้เพื่อไม่ให้ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน เนื่องจากสิทธิ์ในกระบวนการพิจารณาคดี
อย่างไรก็ตาม Ripple ได้แสดงให้เห็นถึงความชัดเจนถึงความยืดหยุ่นในการเผชิญกับแรงกดดันด้านกฎระเบียบ เมื่อปลายเดือนมกราคม โดยบริษัท fintech ได้ประกาศขอซื้อคืนจากรอบการจัดหาเงินทุน Series C ตั้งแต่ปี 2019 ซึ่งมีจำนวนเงินกว่า 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึงแม้ว่า Ripple จะถูกประเมินมูลค่าไว้สูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ก็ตาม