นับเป็นข่าวที่เดือดดาลต้อนรับต้นสัปดาห์กันเลยทีเดียว เมื่อประชาชนชาวแคนาดาเดือด แห่ถอนเงินออกจากบัญชีธนาคารจำนวนมหาศาล และหันหน้าไปซบไหล่ Bitcoin แทน หลังจากที่ถูกประธานาธิบดี ได้ออกมาขู่ว่าจะมีการระงับบัญชีทั้งหมด หากไม่หยุดประท้วง เหตุเกิดจากการประท้วงจากการที่รัฐบาลบังคับให้ฉีดวัคซีนโควิด19 ทั้ง ๆ ที่ ประเทศแคนาดา เป็นประเทศที่มีค่าเฉลี่ยการฉีดวัคซีนโควิด-19 ต่อจำนวนประชากรในลำดับต้น ๆ ของโลกเลยทีเดียว จนถึงวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 มีชาวแคนาดา มีค่าเฉลี่ยการฉีดวัคซีนโควิด-19 สูงถึง 85.11%
การประท้วงดังกล่าวส่งผลให้ Bitcoin กลายเป็นสกุลหลักในการใช้จ่าย
วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา James Melville นักข่าวเศรษฐกิจจากสหราชอาณาจักรได้ทวิตรูปภาพเกี่ยวกับกราฟที่แสดงให้เห็นถึงการไหลออกของเงินจำนวนมหาศาลจากธนาคารแคนาดา พร้อมกับแคปชันที่ว่า “ นี่มันเกิดบ้าอะไรกับธนาคารแคนาดากันนี่? ” ในขณะที่สถานการณ์ของแคนาดาในปัจจุบันนั้น กำลังเผชิญหน้ากับการประท้วงจากประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับมาตรการที่บังคับให้ประชาชนฉีดวัคซีนโควิด19
การประท้วงของชาวแคนาดากลายเป็น ผู้ก่อการร้าย หลังจากหันไปซบ Bitcoin
นายจัสติน ทรูโด ประธานาธิบดีแคนาดาได้ออกมาแถลงการณ์เกี่ยวกับการชุมนุมครั้งนี้ว่า หากประชาชนยังไม่หยุดประท้วงและขัดขวางการจราจรดังกล่าว ทางรัฐบาลจะสั่งระงับบัญชีธนาคาร ซึ่งสามารถทำได้โดยไม่ต้องขอคำศาล แต่การถูกระงับบัญชีธนาคาร ยังไม่ได้น่าเป็นห่วงเท่ากับ การที่ทางการจะใส่รายชื่อของผู้ประท้วงลงใน ‘ผู้ประพฤติมิชอบ’ ซึ่งนั้นจะหมายถึงทำให้ผู้ประท้วงถูกมองว่าเป็นผู้ก่อการร้าย และจะไม่มีนายจ้างคนไหนอยากจะรับเข้าทำงานอีกเลย
ชาวแคนาดาถอนเงินออกมาซื้อ Bitcoin จำนวนมาก
จากเหตุการณ์ที่กล่าวมาในข้างต้น ทำให้ประชาชนชาวแคนาดาเริ่มตั้งคำถามกันแล้วว่า แคนาดาเป็นประเทศประชาธิปไตยจริงหรือไม่ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวแคนาดาจำนวนมากพากันถอนเงินสดออกจากบัญชีธนาคารของตัวเอง เนื่องมาจากเกิดความกังวลต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั่นเอง และยังพบว่าประชาชนจำนวนมากได้นำเงินสดที่ถอนออกมาจากธนาคารไปฝากที่ Bitcoin แทน เพราะตลาดคริปโตเคอเรนซีไม่สามารถถูกแทรกแซงโดยรัฐบาลของแคนาดาได้
ด้วยสาเหตุที่กล่าวมาในข้างต้นนี้ทำให้เกิดวลียอดฮิตที่ว่า ‘Bitcoin จะเข้ามาแก้ไขในส่วนนี้’ และถูกนำมาพูดกันมากขึ้น ประเทศแคนาดาไม่เผชิญหน้ากับภาวะเงินเฟ้อเหมือนประเทศอื่น ๆ เนื่องจากประเทศแคนาดามีรากฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแรง แต่การขาดอิสรภาพทางการเงินก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ประชาชนรับไม่ได้ และกลไกของคริปโตเคอเรนซีได้เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาในส่วนนี้อีกด้วย