Chainalysis บริษัทข้อมูลวิเคราะห์ บล็อกเชน ได้เปิดตัวเครื่องมือใหม่ที่จะเข้ามาช่วยให้บริษัทเว็บเทรด คริปโตเคอเรนซี เพื่อที่จะสามารถกีดกั้นไม่ให้ผู้ใช้บริการชาวรัสเซียสามารถซื้อขายเหรียญ คริปโตเคอเรนซี ได้ ซึ่งชาวรัสเซียต้องการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรที่เกิดขึ้นจากสงคราม รัสเซีย – ยูเครน ในช่วงเวลานี้ได้ และเครื่องมือใหม่นี้ยังจะสามารถกีดกั้นไม่ให้บริษัทนิติบุคคลเข้าถึงแพลตฟอร์มการซื้อขาย คริปโตเคอเรนซี ได้อีกด้วย โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวนี้ได้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลว่ารัสเซียอาจจะใช้ คริปโตเคอเรนซี เพื่อหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรจากชาติยุโรป หลังจากที่รัสเซียได้สั่งบุกยูเครน
คริปโตเคอเรนซี ถูกนำมาใช้มากที่สุดหลังจากเกิดสงคราม รัสเซีย - ยูเครน
ความขัดแย้งทางการทหารของ รัสเซีย – ยูเครน ในปัจจุบันยังคงทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งชาติตะวันตกจึงได้ตัดสินใจที่จะเดินหน้าขยายมาตรคว่ำบาตรรัสเซียต่อไป ซึ่งสาเหตุนี้เองบริษัท Chainalysis จึงเริ่มเล็งเห็นแล้วว่า เราจึงควรที่จะใช้เครื่องมือในการคัดกรองผู้ใช้งานในส่วนตรงนี้เพื่อที่จะกีดกันไม่ให้รัสเซียใช้ คริปโตเคอเรนซี ในการหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรนั่นเอง ซึ่งโซลูชันเหล่านี้จะช่วยให้ผู้สร้างโปรโตคอล web 3 มีรูปแบบกระจายอำนาจ เช่น DEX, แพลตฟอร์ม defi, DAO และ dapps ไปจนตลอดทุกคนที่โต้ตอบกับสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งสามารถตรวจสอบได้ว่า พวกเขาไม่ได้โต้ตอบกับกระเป๋าเงิน คริปโตเคอเรนซี ที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานที่ถูกคว่ำบาตรนั่นเอง
เหรียญ คริปโตเคอเรนซี ที่ถูกใช้มากที่สุด
สำหรับเครื่องมือตัวแรกที่จะนำมาใช้ในการกีดกันผู้ใช้งานชาวรัสเซียนั้นจะเป็น On-chain Oracles ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสัญญา Smart contract ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานแต่ละคนสามารถเรียกใช้สัญญา Smart contract อื่นเพื่อที่จะช่วยในการตรวจสอบว่าที่อยู่นั้นอยู่ในรายชื่อของประเทศที่ถูก Blacklist ตามมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ โดยเครื่องมือนี้จะถูกนำไปใช้กับเครือข่ายหลัก ๆ เช่น Ethereum, Avalanche, BSC, Polygon, Optimism, Arbitrum, Celo เป็นต้น
เครื่องมือที่นำมาใช้ จะช่วยป้องกันการเข้าถึงตลาด คริปโตเคอเรนซี
จากที่กล่าวมาในข้างต้น เรายังมีเครื่องมืออีกตัวนั้น คาดการณ์ว่าจะเปิดให้มีการใช้งานได้จริงในช่วงเดือนเมษายน 2022 นี้อย่างแน่นอน ซึ่งเป็นจะเครื่องมือ API สำหรับการใช้ติดตามนักเทรด คริปโตเคอเรนซี บนเว็บไซต์หรืออุปกรณ์มือถือ โดยนักลงทุน คริปโตเคอเรนซี ทุกคนจะต้องทำการยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้งานเพื่อที่จะเปิดเผยว่าอยู่ในประเทศที่ถูกคว่ำบาตรหรือไม่ โดยระบบนี้จะนำรายชื่อของประเทศที่ถูก Blacklist จากกระทรวงการคลังของสหรัฐฯ มาใช้ในการอ้างอิง
อย่างไรก็ตาม Chainalysis ได้กล่าวว่าเครื่องมือเหล่านี้ฟรี และจะช่วยให้ธุรกิจ คริปโตเคอเรนซี และองค์กรอื่น ๆ ที่ดำเนินการในภาคส่วนนี้จะสามารถทำการตรวจสอบที่อยู่ คริปโตเคอเรนซี ได้อย่างรวดเร็วก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อเข้ากับแพลตฟอร์มและบริการของตนนั่นเอง