บทสรุปของคดี Ripple vs SEC ( ก.ล.ต. ) คาดว่าจะเป็นการกระตุ้นให้มูลค่าของ XRP เติบโตเป็นอย่างมากในปี 2022
ราคาของ Ripple ( XRP ) ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในระดับเดิมเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมาแม้ว่า cryptocurrencies อื่น ๆ จะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โชคดีที่ XRP กลับมามีชีวิตอีกครั้งเนื่องจากคดีความที่ยืดเยื้อกับ SEC ดูเหมือนจะถึงจุดสิ้นสุด สิ่งนี้ได้กระตุ้นให้ราคาของ Ripple จะกลับมา moon อีกครั้งในปี 2022 ซึ่งตอนนี้ราคาของ XRP อยู่ที่ 0.6822 ดอลลาร์สหรัฐฯ โดยมีมูลค่าตลาด 3.940 พันล้านดอลลาร์ อ้างอิงข้อมูลจาก CoinMarketCap
อัตราการซื้อขายของ Ripple XRP ได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมากในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดเพิ่มขึ้น ว่าอาจมีข่าวดีสำหรับคดี XRP ที่ถูกฟ้องร้องจาก SEC ในขณะที่สถานการณ์เริ่มแน่นอนและเข้มข้นขึ้น ในทางกลับกัน Ripple Labs ซึ่งเป็นบริษัทที่อยู่เบื้องหลังเหรียญ XRP ก็ได้ซื้อหุ้นคืนบางส่วนเช่นกัน เนื่องจากเป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สาธารณะ หลังจากการพิจารณาคดีในศาลสิ้นสุดลง
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของ Ripple
ในทางเทคนิค ราคาของ Ripple อยู่ในช่วงขาขึ้น เนื่องจากราคาได้ขยับเข้าใกล้กับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วัน ( ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โปเนนเชียล ) ที่ราคา 0.74 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป้าราคาต่อไปอาจจะอยู่ที่ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ว่าการพุ่งขึ้นครั้งใหญ่ของราคา Ripple กำลังจะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า แม้ว่า XRP จะไม่สามารถมีประสิทธิภาพได้เหนือกว่าโทเคนดิจิทัลชั้นนำอย่าง Bitcoin และ Ethereum ในระยะเวลาอันสั้น แต่ก็มีศักยภาพเพียงพอที่จะสามารถทำได้ในระยะยาว จากข้อมูลบนเครือข่ายที่ให้บริการโดยการวิเคราะห์ของ Santiment XRP สามารถบอกได้ว่า ตอนนี้กำลังเป็นช่วงการเก็บสะสมเหรียญ XRP ซึ่งล่าสุด วาฬที่ถือไว้อยู่ 10 ล้าน XRP ได้ทำการซื้อเหรียญ XRP เพิ่มและคว้าไปถึง 900 ล้านเหรียญ
การเปลี่ยนแปลงราคาของ Ripple ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
นับตั้งแต่ก่อตั้ง XRP ได้รับความสนใจอย่างมากและราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีเพียง SEC เท่านั้นที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับ XRP แต่ทาง Ripple ก็ยังคงได้สู้คดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคดีดังกล่าวเป็นคดีที่ทาง SEC ได้ยื่นฟ้อง Ripple เกี่ยวกับว่า XRP นั้นถือเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับอนุญาตหรือไม่
XRP ได้เปิดตัวในปี 2013 และราคานั้นก็ไม่ได้มีการเติบโตมากมาย จนถึงปี 2017 ก่อนที่จะเข้าสู่กระแสหลัก ในเวลาน้อยกว่าหนึ่งปี ราคาของ Ripple เพิ่มขึ้น 35,000% ในขณะที่คริปโตเคอเรนซี่กำลังก้าวไปสู่ก้าวใหม่ บริษัทที่อยู่เบื้องหลังนั้นสามารถบรรลุเกณฑ์ของธนาคาร 100 แห่งทั่วโลกที่ลงนามใน RippleNet หลังจากแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในต้นปี 2018 หลังจากนั้น Ripple ก็ไม่สามารถรักษาระดับราคาไว้ได้ และราคาก็ได้ร่วงลงตามตลาดคริปโตส่วนใหญ่ ซึ่งลดลงถึง 43% ตลอดปี 2019 ราคาของ Ripple ค่อนข้างคงที่ อย่างไรก็ตาม Ripple ไม่ได้แตะระดับสูงสุด All time High ในปี 2020 ที่สกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ได้ทำสถิติ All time High ใหม่ แต่กลับมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงกลางปี 2020
คดี XRP กับ SEC สามารถส่งผลกระทบต่อราคาของ Ripple ได้อย่างไร?
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2020 ก.ล.ต. ได้ยื่นฟ้อง Ripple Labs โดยกล่าวหาว่าบริษัทซื้อขาย XRP เป็นหลักทรัพย์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ก.ล.ต. กล่าวหาว่า Ripple Lab ระดมทุนได้มากกว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ผ่านข้อเสนอการรักษาความปลอดภัยของทรัพย์สินดิจิทัลที่ไม่ได้ลงทะเบียนอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่นั้นมา สกุลเงินดิจิทัลก็ได้เผชิญกับการลดลงของราคาครั้งใหญ่ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในที่สุดนักลงทุนก็เริ่มมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์
ในเดือนนี้ Ripple ได้มีการเติบโตขึ้นของราคาอย่างมาก ซึ่งอาจเป็นกระแสตอบรับที่ทาง Ripple Lab ได้ออกมาต่อสู้คดี ซึ่งศาลตัดสินให้ XRP ยอมให้บริษัทเปิดเอกสารสำคัญสองฉบับ พวกเขาคาดว่าจะเปิดเผยวิธีที่ SEC จำแนกประเภทและหมวดหมู่ของ XRP ในปี 2022 ซึ่งปีที่แล้ว Empower Oversight กล่าวหาว่าอดีตเจ้าหน้าที่ SEC มีอคติต่อ Ripple Lab และ XRP เพื่อเป็นการสนับสนุน Ethereum ทางอ้อม
ราคา XRP จะไปทิศทางไหนในปี 2022
ราคาของ Ripple ขึ้นอยู่กับการตัดสินของคดี XRP และ SEC อย่างสมบูรณ์ในขณะนี้ ซึ่งทาง Ripple ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า การชนะคดีครั้งนี้จะไม่ใช่แค่ความสำเร็จของบริษัทเท่านั้น แต่ยังรวมถึงตลาดสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดด้วย นั่นจะเป็นครั้งแรกที่สื่อกระจายอำนาจสามารถเอาชนะฝ่ายรัฐบาลได้ ดังนั้นราคาของ XRP คาดว่าจะแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ปัจจุบัน ตามการวิเคราะห์ของ CoinCodex ตัวบ่งชี้ ( อินดิเคเตอร์ ) 21 ตัวกำลังแสดงสัญญาณตลาดกระทิง ( Bullish divergence ) และสัญญาณตลาดหมี ( Bearish divergence ) 10 ตัว การวิเคราะห์ราคา จากอินดิเคเตอร์อื่นชี้ว่า XRP กำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นและอาจจะไปแตะที่ราคา 1.28 เหรียญสหรัฐในช่วงต้นปี 2023