เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาล ยูเครน ได้เปิดตัวคอลเลกชัน NFT ของตนเองเพื่อระดมทุนสำหรับสงครามและความพยายามที่จะช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ถึงแม้จะมีความคาดหวังก่อนการเปิดตัวเป็นอย่างมาก แต่คอลเล็กชัน NFT จำนวน 2,182 ชิ้น ก็ยังไม่ขายหมดหลังจากผ่านไปเกือบสัปดาห์

ท่ามกลางสงครามที่ดำเนินอยู่ของ ยูเครน กับรัสเซีย ยูเครน ได้กลายเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวคอลเลกชัน NFT ของตัวเองอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวล้มเหลวตามความคาดหวังเมื่อเทียบกับ NFT ที่มีชื่อเสียงอื่น ๆ ซึ่งโดยทั่วไปจะขายเกือบหมดในทันที

เดิมทีรัฐบาล ยูเครน มีแผนที่จะปล่อย crypto airdrop แต่แนวคิดนี้ถูกละทิ้งไป และหันไปพัฒนาเพื่อเปิดตัว NFTs แทน แต่ต้องใช้เวลาเกือบหนึ่งเดือนในการพัฒนาและวางขายคอลเลกชัน

คอลเลกชันนี้มีชื่อว่า “META HISTORY Museum of War” ซึ่งแสดงลำดับเหตุการณ์ตั้งแต่สงครามเริ่มผ่านงานศิลปะโดยมีทวีตข้อความซ้อนทับอยู่ด้านบน

ของสะสมชิ้นหนึ่งเป็นภาพเหมือนของเครื่องบินที่อยู่ในกรงนก ซึ่งหมายถึงการตัดสินใจของประธานาธิบดี Ursula von der Leyen ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปที่จะปิดน่านฟ้าของสหภาพยุโรปสำหรับเครื่องบินรัสเซียทุกลำ

อีกภาพหนึ่งแสดงภาพหัวกะโหลกจำนวนหนึ่งที่มีดอกไม้งอกออกมาซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทหารรัสเซียที่เสียชีวิต

ผลของการขาย ไม่ได้เป็นไปตามที่คาดหวัง

ในการซื้อ NFT ตัวใดตัวหนึ่ง ผู้ใช้ต้องไปที่เว็บไซต์ของโปรเจกต์และทำการสร้างมันขึ้นมาก่อน จึงจะเข้าสู่รายการบน OpenSea

ตามข้อมูลของรัฐบาล ยูเครน คอลเลกชั่น 1,051 ชิ้นถูกขายไปเพียง 24 ชั่วโมงหลังการเปิดตัว ณ บ่ายวันพฤหัสบดี มีไม่เกิน 1,600 รายที่เข้ามาซื้อ ( ซื้อเพื่อครอบครองของเจ้าของ 641 ราย ) ใน OpenSea

กระทรวงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของ ยูเครน ได้ดูแลการขายและโฆษกเปิดเผยว่าจนถึงขณะนี้พวกเขาได้รับเงินจัดการซื้อสะสมมากกว่า 600,000 ดอลลาร์จากการขาย NFT

ณ บ่ายวันพฤหัสบดี ราคาสำหรับคอลเลกชัน META HISTORY บน OpenSea อยู่ที่ 0.155 ETH โดยมีปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ 13.6 ETH

ยูเครนได้รับเงินบริจาคมากกว่า 70 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่รัสเซียบุกโจมตีเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้เป้าหมายการขาย NFT ลดลง

แหล่งข่าว: investing.com