Blockchain Monster Hunt เป็น Game-Fi ที่มาในแนวของการจับมอนสเตอร์ ที่มีแรงบันดาลใจจากซีรีส์เกมชื่อดังอย่าง Pokemon ที่เป็นที่นิยมอย่างมาก ไม่เฉพาะแค่ในกลุ่มเกมเมอร์เท่านั้น วันนี้ทาง Cryptoaday จะพาเพื่อน ๆ ไปทำความรู้จักกับ Blockchain Monster Hunt กันให้มากขึ้น
ทำความรู้จักกับ Blockchain Monster Hunt กัน
Blockchain Monster Hunt เป็น Game-Fi ประเภท Play-To-Earn มีแนวเกมเป็น RPG ที่มีสไตล์การเล่นคล้าย ๆ ซีรีส์เกมชื่อดังอย่าง Pokemon ซึ่งจุดเด่นของ Blockchain Monster Hunt คือจะรันอยู่ในหลาย ๆ Blockchain ตั้งแต่ Binance Smart Chain, Ethereum, Polygon เป็นต้น นอกจากนี้ทีมพัฒนายังมีการเปิดเผยหน้าตาและประวัติส่วนตัว นอกจากนี้ยังขน Partner มาอย่างคับคั่ง เช่น Animoca Brands หรือบริษัทที่พัฒนาเกม Crazy Defense Heroes นั้นเอง
Gameplay ของ Blockchain Monster Hunt
ใน Blockchain Monster Hunt จะแบ่งโหมดการเล่นออกเป็น 2 โหมด คือ โหมดจับมอนสเตอร์ และ โหมดต่อสู้ ( PVE และ PVP )
- โหมดจับมอนสเตอร์ ในส่วนนี้จะคล้ายกับการจับโปเกมอนป่าในเกม Pokemon ซึ่งเราจะมีอิสระในการบังคับตัวละครของเราให้ไปผจญภัยในแผนที่ต่าง ๆ แล้วเราจะมีโอกาสพบกับมอนสเตอร์ป่า ซึ่งเราสามารถเลือกที่จะต่อสู้จนชนะมอนสเตอร์เพื่อรับค่าประสบการณ์ให้มอนสเตอร์ในทีม หรือเลือกจับมอนสเตอร์เข้ามาในทีมก็ได้เช่นกัน โดยการจับมอนสเตอร์แต่ละครั้งเราจำเป็นต้องใช้ค่า Catch Point ( CP ) ในการจับเสมอ ซึ่งหากมอนสเตอร์ที่เราจะจับมีระดับความหายากมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งใช้ค่า CP มากขึ้น โดยเราสามารถใช้ Token ของ Blockchain ต่าง ๆ มาซื้อค่า CP ได้ นอกจากนี้ภายในโหมดนี้เราจำเป็นที่จะต้องมีมอนสเตอร์อย่างน้อย 1 ตัวเสมอ และเราสามารถพกพามอนสเตอร์ได้สูงสุด 6 ตัว
- โหมดต่อสู้ ( PVE และ PVP ) ในโหมดนี้จะเหมือนกับการต่อสู้กับเทรนเนอร์ในเกม Pokemon โดยแต่ละฝ่ายจะต้องส่งมอนสเตอร์ลงมาฝั่งละ 1 ตัว แล้วมอนสเตอร์จะต่อสู้กันแบบ Auto Battle สำหรับผลแพ้ชนะจะวัดกันที่หากมอนสเตอร์ของใครมีพลังชีวิตเหลือ 0 ก่อนก็จะแพ้ไป ซึ่งมอนสเตอร์แต่ละตัวก็จะมีความสามารถที่แตกต่างกันออกไป ทั้งในด้านของค่าสถานะจนไปถึงระบบธาตุที่มีการชนะทางแพ้ทางกัน
NFT ภายใน Blockchain Monster Hunt
NFT ภายใน Blockchain Monster Hunt จะถูกเรียกว่า Blockchain Monster ซึ่งก็คือเหล่ามอนสเตอร์ของเราที่จะร่วมเดินทางไปกับเรานั่นเอง ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่
- Genesis จะเป็นสายพันธุ์ดั้งเดิม
- Chain Mascot จะเป็นสายพันธุ์ที่เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ Blockchain ต่าง ๆ ที่ถูกเพิ่มเข้ามาภายในเกม โดยสายพันธุ์นี้จะเกิดขึ้นทุกครั้งที่ตัว Blockchain Monster Hunt ได้มีการเพิ่ม Blockchain ใหม่ ๆ เข้ามา
- Wild หรือเหล่ามอนสเตอร์ป่าที่เราจะได้พบเจอภายในเกมเลยนั้นเอง
- Artificial เป็นสายพันธุ์ลูกผสม ที่จะเกิดจากระบบ Breeding ภายในเกม
นอกจากนี้ระบบความหายากของมอนสเตอร์ภายใน Blockchain Monster Hunt จะถูกแบ่งตามค่า Genus ซึ่งมีด้วยกัน 6 ระดับ
- 1 – 8 จะเป็นระดับ Common มีโอกาสปรากฏตัวให้จับตั้งแต่ไม่กี่นาทีจนไปถึงหลักชั่วโมง
- 9 – 16 จะเป็นระดับ Uncommon มีโอกาสปรากฏตัวให้จับในหลักชั่วโมงไปจนถึงเป็นวัน
- 17 – 24 จะเป็นระดับ Rare มีโอกาสปรากฏตัวให้จับในหลักไม่กี่วัน
- 25 – 32 จะเป็นระดับ Epic มีโอกาสปรากฏตัวให้จับในหลักวันจนไปถึงสัปดาห์
- 33 – 40 จะเป็นระดับ Legendary มีโอกาสปรากฏตัวให้จับใน 2 สัปดาห์จนไปถึง 2 เดือน
- 41 – 48 จะเป็นระดับ Mythic มีโอกาสปรากฏตัวให้จับในรอบปี
นอกจากนี้ยังมีระบบที่สำคัญมาก ๆ คือระบบธาตุ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการวัดผลแพ้ชนะ ซึ่งภายใน Blockchain Monster Hunt จะมีธาตุด้วยกันทั้งหมด 10 ธาตุ ได้แก่ ไฟ ดิน น้ำ ไฟฟ้า น้ำแข็ง ลม ความมืด แสง วิญญาณ และ ไร้ธาตุ
สำหรับแฟน ๆ ที่ชื่นชอบเกมแนว Pokemon ก็คงจะหลงรัก Blockchain Monster Hunt อย่างแน่นอน ซึ่งระบบก็มีความน่าสนใจอย่างมากโดยเฉพาะเรื่องของ Multichain ที่จะอำนวยความสะดวกให้เพื่อน ๆ ได้ในทุก Platform ที่เพื่อน ๆ สะดวก สำหรับใครที่อยากติดตามข่าวสารและรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถดูได้ในช่องทาง Social Media ของตัวเกม ตามที่เพื่อน ๆ สะดวกได้เลย
Official Website Blockchain Monster Hunt
Official Twitter Blockchain Monster Hunt