Ember Sword เกม MMORPG แบบ Free-To-Play และ Play-To-Earn อีกหนึ่งเกมที่น่าสนใจด้วยกราฟิกที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว และระบบการเล่นที่ออกมาตอบโจทย์แฟน ๆ เกม MMORPG อย่างแน่นอน และวันนี้ Cryptoaday ก็จะพาเพื่อน ๆ ทุกคนไปรู้จักกันให้มากยิ่งขึ้นกับ Ember Sword
รายละเอียดเกมเบื้องต้นของ Ember Sword
Ember Sword เป็น Game-Fi ประเภท Play-To-Earn ที่รองรับระบบการเล่นแบบ Cross Platform ทั้งใน PC ( Window, MacOS ) และโทรศัพท์มือถือ ( Android, iOS ) ซึ่งตัวเกมมาในแนวเกมแบบ MMORPG แบบ Sandbox ที่จะเปิดโอกาสให้ผู้เล่นทำกิจกรรมต่าง ๆ หลากหลายภายในเกม และถูกพัฒนาโดย Unity Engine ตัวเกมถูกรันแบบ Multi Blockchain ทั้งบน Ethereum Blockchain และ Polygon Blockchain มี Token หลักของเกมคือ Ember Token ซึ่งใช้ในกิจกรรมต่าง ๆ ภายในเกม นอกจากนี้ทางผู้พัฒนาของ Ember Sword หรือ Bright Star Studio มีการเปิดเผยหน้าตาและประวัติการทำงานกันอย่างครบถ้วน และ CEO อย่าง Mark Laursen ก็เคยเป็นแชมป์ในเกมอย่าง Word Of Warcraft อีกด้วย หรือแม้กระทั่งทีมงานเองก็เคยเป็นอดีตทีมงานจากค่าย Blizzard หรือเคยมีประวัติในการทำเกมหรือ Platform ที่เกี่ยวข้องกับวงการเกมทั้งสิ้น
ภาพรวมภายใน Ember Sword
Ember Sword เป็นเกมแนว MMORPG ที่ให้อิสระกับผู้เล่นในการทำสิ่งต่าง ๆ ภายในเกม ซึ่งทางผู้พัฒนาได้เปรยมาว่าตัวเกมเป็นแบบ Ultimate Sandbox ซึ่งผู้เล่นจะสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ ตั้งแต่การล่ามอนสเตอร์ ล่าบอส ตกปลา สร้างไอเทม ทอผ้า ขุดแร่ ทำภารกิจ ตัดต้นไม้ หาสมบัติ
มาอีกหนึ่งอย่างคือ Ember Sword ไม่มีระบบอาชีพเหมือนกับ MMORPG อื่น ๆ แต่จะสามารถใช้อาวุธได้ทุกชนิด ซึ่งจะมีด้วยกัน 3 ชนิดคือ อาวุธระยะประชิด อาวุธระยะไกล และอาวุธพลังงาน ซึ่งยังไม่มีรายละเอียดออกมามากนักว่ามีอะไรกันบ้าง โดยแต่ละอาวุธก็จะมีระบบสะสมทักษะ ก็คือยิ่งใช้ก็จะยิ่งมีความชำนาญสูงขึ้น มีตั้งแต่ Level 1 – 100 ซึ่งไม่ใช่แค่อาวุธเท่านั้น แต่ทักษะอื่น ๆ ก็มีระดับความชำนาญเช่นกัน ตั้งแต่ การขุด การตัดไม้ การตกปลา การแล่หนัง การเก็บเกี่ยว การหลอม การฟอกหนัง การทอผ้า งานไม้ การสร้างชุดเกราะ การสร้างอาวุธ การสร้างเครื่องประดับ การทำอาหาร
ระบบชุดเกราะก็เป็นอีกสิ่งที่น่าสนใจของ Ember Sword ซึ่งจะมีด้วยทั้งหมด 3 แบบ คือเกราะหนัก เกราะเบาและผ้าคลุม ซึ่งสามารถนำมาผสมกันได้ ซึ่งก็จะได้สไตล์ที่เพื่อน ๆ ชอบ เราอาจจะได้เห็นนักธนูใส่เกราะหนักยิงอยู่แนวหน้าก็ได้
Thanabus โลกที่ผู้เล่นจะอาศัยใน Ember Sword
Thanabus เป็นโลกภายใน Ember Sword ซึ่งจะถูกแบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ Solarwood, Duskeron, Edisau และ Sevrend ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 Zone ได้แก่
- Kingship จะเป็นพื้นที่ใน Land ภายในเกม ซึ่งจะถือเป็น Safe Zone ของผู้เล่น ซึ่งจะใช้ในการ PVE และการเก็บทรัพยากรต่าง ๆ และทำภารกิจอีกด้วย
- Wilderness จะเป็น Zone ที่เน้นการ PVE และการเก็บทรัพยากรระดับสูง ซึ่งสิ่งที่พิเศษของส่วนนี้คือ เราสามารถทำการ PK กับผู้เล่นที่เลือกดินแดนบ้านเกิด คนละที่กับเราได้ และแน่นอนผู้เล่นคนอื่นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน
- Outlaw เป็น Zone ที่อันตรายที่สุด ซึ่งจะเป็นส่วนที่เป็นชายแดนระหว่างประเทศ มีทรัพยากรระดับสูงมากมายและเต็มไปด้วยมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งกว่า Zone อื่น ๆ รวมไปถึงผู้เล่นทุกคนสามารถทำการ PK ได้อย่างอิสระ และหากผู้เล่นเผลอพลาดตายในดินแห่งนี้ไอเทมทุกอย่างจะหายไปทั้งหมด
และอย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่าผู้เล่นใน Ember Sword จะต้องเลือกดินแดนบ้านเกิดจาก 1 ใน 4 อีกด้วย
Land และระบบการซื้อขายของ Ember Sword
Land ภายใน Ember Sword จะมีด้วยกันทั้งหมด 160,000 Land แบ่งเป็นภูมิภาคละ 40,000 Land ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 4 ระดับคือ
- Regular Plot เป็น Land ขนาดเล็ก 1×1 ซึ่งจะใช้เป็นที่ตั้งแคมป์ บ้านพัก NPC และจุดเกิดมอนสเตอร์
- Settlement เป็น Land ขนาด 1×1 เช่นกันเดียวกับ Regular Plot ซึ่งสิ่งที่พิเศษคือเราสามารถสร้างที่อยู่ได้ สร้างอาคารได้ สร้างกิลด์ขนาดเล็กได้ เป็นจุดเติมเสบียง และเป็นร้านค้าขนาดเล็กด้วย
- Town เป็น Land ขนาด 2×2 ซึ่งเราสามารถตั้งถิ่นฐานนักผจญภัยได้ และเป็นสถานที่แลกเปลี่ยน
- City เป็น Land ขนาดใหญ่ 4×4 ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยน และเป็นจุดสำหรับสร้างกิลด์ขนาดใหญ่
ซึ่ง Ember Sword จะไม่มีระบบการตลาดกลาง ผู้เล่นจะต้องซื้อขายด้วยตัวเองในสถานที่แลกเปลี่ยนของตัวเกมเท่านั้น
เป็นอีกหนึ่งเกม MMORPG ที่เรียกได้ว่าน่าจับตามองมาก ๆ ที่สุดเกมหนึ่งในวงการ Game-Fi ด้วยราคา Land Re-sale ที่สูงเกิน 10x ไปแล้ว หากใครที่อยากติดตามรายละเอียดและข่าวสารอื่น ๆ ของ Ember Sword สามารถติดตามได้ที่