ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยทางเราจะมาบอกกล่าว ให้ทุกคนได้เข้าใจ ในส่วนของหุ้นตกคริปโตร่วง ดอกเบี้ยสูงมากขึ้น ควรต้องจับตาสภาวะเงินเฟ้อ เป็นประเด็นร้อนแรงเลยทีเดียว ที่ได้หยิบยกมาพูดถึงกัน เพราะเกิดขึ้นหลังจาก Fed ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ไปเมื่อเดือนพฤกษาคมล่าสุด และ ได้วางแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งตลอดทั้งปี ลากยาวไปจนถึงปี 2566 ระหว่างรอให้ทุกอย่างดีขึ้น โดยทาง www.cryptoaday.com อยากพาทุกคนเข้าไปดูรายละเอียด ข้อมูลการปรับดอกเบี้ยในอดีต ว่าเป็นอย่างไรบ้าง บอกได้เลยว่า การปรับในแต่ละครั้งนั้น ล้วนแต่ส่งผลกระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ทางด้านการเงิน หรือ เศรษฐกิจทั่วโลก
หากสงสัยว่า ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทางเรามีคำตอบ
หากสงสัยว่า ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ก็เพราะว่า Fed หรือ The Federal Reserve System เป็นองค์กรรวมธนาคารกลางส่วนภูมิภาค 12 แห่ง อยู่ในรัฐต่าง ๆ ของสหรัฐอเมริกา โดยหมายเลข 1 – 12 จะแทนหัวใจสำคัญของระบบ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา และ กลุ่ม FOMC ออกนโยบายการเงินอีกด้วย เป้าหมายระยะเวลา อันยาวนานของ Fed จะเป็นอัตราเงินเฟ้อไว้ 2% เพื่อไปถึงหัวใจสำคัญต่าง ๆ ว่าด้วยการสร้างความชัดเจนของราคา และ เร่งให้เกิดการจ้างงานแบบยั่งยืน
ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ นโยบายทางด้านการเงิน
ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะได้ออกนโยบายการเงิน เสริมความมั่นคงมากมาย ให้กับระบบทางการเงิน กำกับดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ของสถาบันทางการเงิน พร้อมระบบการเงินให้ปลอดภัย และ มีประสิทธิภาพสูงสุด รวมไปจนถึงการกระตุ้น ปกป้องผู้บริโภค และ พัฒนาชุมชน โดยนำมาปรับใช้วิธีการทำงาน รูปแบบนโยบายต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
- รูปแบบดำเนินตลาดการเงิน – ซื้อขายตลาดหลักทรัพย์ ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา
- รูปแบบดำรงสินทรัพย์สภาพคล่อง – คงอัตราการฝาก ของธนาคารพาณิชย์
- ปรับอัตราดอกเบี้ย – ที่ได้จ่ายให้กับธนาคารพาณิชย์
- อัตราคิดลด – โดยเก็บอัตราดอกเบี้ย จากธนาคารพาณิชย์ หรือ สถาบันรับฝากเงิน จากการยืมเงินธนาคารกลาง
ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลกระทบทั่วโลกอย่างไร
ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย และ ทำไมการปรับอัตราดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา ถึงสำคัญมากเพียงใด และ ส่งผลกระทบอย่างเรื่อย ๆ จนมาถึงพวกเราเกือบทุกด้าน ได้แก่
ภาวะเงินเฟ้อ , การจ้างงาน
- ในเมื่ออัตราดอกเบี้ยผันผวน อาจส่งผลต่อมูลค่าเงิน ในการใช้จ่ายครัวเรือน และ การทำธุรกิจต่าง ๆ หากดอกเบี้ยต่ำ เราจะกู้ได้ราคาถูก สำหรับคนทำธุรกิจ จะได้ขยับขยายกิจการง่ายกว่าเดิม และ หากกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ก็ยิ่งสูงตามไปด้วย จนนำไปสู่ภาวะเงินเฟ้อ และ ยังมีปัจจัยมากมายอีกด้วย
ตลาดลงทุน
- สำหรับนักลงทุนที่ได้เผชิญหน้า กับมูลค่าสินทรัพย์ร่วงลง ไม่ว่าจะเป็น ตลาดหุ้น พันธบัตร และ สินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้รับความนิยมมาก ในปีที่แล้วอย่าง Cryptocurrency โดยทาง Bitcion ร่วงทะลุ 30,000 ดอลลาร์ และ ลดลงจากจุดสูงสุดไว้ถึง 69,000 ดอลลาร์ ในเมื่อ Fed ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย นักลงทุนจึงเกิดความไม่มั่นใจ กับสินทรัพย์ที่ได้ถือไว้ และ คริปโตได้ชื่อว่าเป็นสินทรัพย์ความเสี่ยง ประกอบกับตลาดหุ้น ได้ร่วงลงอย่างหนักหน่วง จึงเกิดการเทขายเหรียญเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้เหรียญคริปโตอื่น ๆ ร่วงไปตามกันอีกด้วย
การกู้ยืม
- อัตราสินเชื่อจะแปรผัน ตามอัตราดอกเบี้ย Fed เพราะผู้กู้ได้ถูกเรียกเก็บดอกเบี้ย อิงตามอัตราดังกล่าว หากปรับอัตราดอกเบี้ยสูง ต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงเช่นเดียวกัน
ทำไม FED ต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย มาจากหุ้นตกคริปโตร่วง ดอกเบี้ยสูงมากขึ้น ต้องจับตาสภาวะเงินเฟ้อ หลังจาก Fed ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% พร้อมได้วางแผนปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 7 ครั้งตลอดทั้งปี ลากยาวไปจนถึงปี 2566 และ Fed ออกนโยบายการเงิน เสริมความมั่นคงมากมาย ให้กับระบบทางการเงิน กำกับดูแลกิจกรรมต่าง ๆ ให้อย่างปลอดภัยสูงสุด รวมไปจนถึงการปกป้องผู้บริโภค พัฒนาชุมชน โดยนำมาปรับใช้วิธีการทำงาน รูปแบบนโยบายต่าง ๆ นั่นเอง สามารถติดตามรายละเอียด จากทาง www.cryptoaday.com ในการปรับอัตราดอกเบี้ย แต่ละครั้งว่าเป็นอย่างไรบ้าง