FED เริ่มมีการออกมาประกาศเกี่ยวกับความเป็นไปได้อย่างเป็นทางการของ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ Central Bank Digital Currency ( CBDC ) ที่หลังจากได้ศึกษาแนวทางการสร้าง สกุลเงินดิจิทัล ออกมาจนได้ข้อสรุปที่ชัดเจนถึงการที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงแล้ว หลักการทำงานของ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นจะไม่เหมือนกับ Stablecoin เป็นการทำคนละแบบ แต่สุดท้ายแนวทางการใช้งานก็มีลักษณะที่เหมือนกัน โดยที่ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นมีข้อดี ข้อเสีย ความเหมาะสมสำหรับการใช้งานแบบไหนบ้าง
รูปแบบของการทำงานของ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ
หลังจากที่ FED ได้ข้อสรุปเกี่ยวกับ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วก็ได้วางแนวทางสำหรับการสร้าง สกุลเงินดิจิทัล นี้ขึ้นมา โดยที่รูปแบบของ FED นั้นจะได้มาเป็นดังนี้
FED เลือกให้พัฒนา สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นแบบ Account-Based เพื่อให้สามารถรู้ถึงข้อมูลส่วนตัวของผู้ถือ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ ได้และสามารถใช้ในการตรวจสอบการทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น แต่ในส่วนข้อมูลส่วนตัวนั้นก็จะมีกฎหมายควบคุมห้ามเปิดเผยด้วยเช่นกัน จะสามารถทำได้ในกรณีที่ได้รับความยินยอมและมีการสั่งจากศาลเท่านั้น เช่นเดียวกัน ข้อมูลส่วนตัวของบัญชีธนาคาร หากไม่ยินยอมก็ไม่สามารถตรวจสอบได้
FED ได้วางแนวทางการแจกจ่ายและนำเสนอการใช้งานโดยให้ ธนาคารพาณิชย์ ต่าง ๆ ในประเทศนั้นเป็นส่วนช่วยขับเคลื่อนให้กับประชาชน เพื่อการเข้าถึงที่ง่ายและมีที่ปรึกษาที่คอยให้คำแนะนำได้มากกว่าที่รัฐบาลจะเป็นผู้ทำเองทั้งหมด
นอกจากนี้ยังได้มีการสรุปเกี่ยวกับข้อดีและข้อเสียต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้งาน สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นมา โดยที่แต่ละแบบนั้นจะสรุปมาได้ดังนี้
ข้อดี ในการใช้สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ
- ช่วยลดระดับความเสี่ยงในรูปแบบต่าง ๆ ที่สามารถเกิดขึ้นได้กับ Stablecoin ของคริปโตเคอเรนซี
- ช่วยบรรดาผู้ประกอบการวิสาหกรรมขนาดกลางและเล็ก หรือ SME นั้นไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการออก Private Digital Money หรือเท่ากับช่วยลดความเสียเปรียบด้านต้นทุนต่อบริษัทยักษ์ใหญ่
- ช่วยส่งเสริมให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงเป็นเงินสกุลหลักของโลกหรือ International Reserve ที่มีเวอร์ชันเงินเป็นแบบดิจิทัลเทียบเคียงกับเงินสกุลหลักอื่น ๆ สามารถใช้งานได้ทั่วโลก
- ช่วยบริการการชำระเงินระหว่างประเทศให้มีความปลอดภัยและรวดเร็วมากขึ้น
- ช่วยให้ประชาชนที่ด้อยโอกาส สามารถเข้าถึงแหล่งการเงินได้ โดยจากสถิติ พบว่าในสหรัฐฯ มีผู้ที่ไม่ได้เข้าถึงแหล่งเงินเยอะในระดับหนึ่ง โดย สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้ต้นทุนค่าใช้จ่าย ด้านการเงินลดลง กระจายวงกว้างได้มากขึ้น
- เกิดความครอบคลุมด้านการเงินหรือ Financial Inclusion ในพื้นที่ห่างไกล ผ่านแอปพลิเคชันที่จะใช้ เงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ
ข้อเสีย ในการใช้สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ
- การเปลี่ยนโครงสร้างตลาดของภาคการเงิน เมื่อมี สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งมีสถานะใกล้เคียงกับเงินที่ใช้กันในปัจจุบันเข้ามาในระบบสถาบันการเงิน โดยที่มีความเสี่ยงต่ำกว่าและสามารถจัดเก็บได้เอง ทำให้ธนาคารนั้นจะมีเงินฝากเข้ามาน้อยลงและส่งผลต่อปริมาณเงินกู้ที่ลดลงด้วย ส่งผลกระทบต่อธนาคารและสถาบันการเงินอย่างแน่นอน
- ปฏิบัติการของนโยบายการเงินน่าจะมีประสิทธิภาพลดลง โดยที่การออกแบบของ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ จะมีอิทธิพลต่อกลไกการทำงานของนโยบายการเงินในปัจจุบัน
- การปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการป้องกันอาชญากรรมทางการเงิน เมื่อ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการใช้งานระบบการเงินด้วยแอปพลิเคชันทำให้ไม่ใช่ว่าทุกคนก็สามารถใช้งานได้ทั้งหมด จะต้องมีการเรียนรู้และปรับตัวเพื่อที่จะใช้งานในช่วงแรก เป็นช่องโหว่ที่ทำให้มีอาชญากรรมทางไซเบอร์เกิดขึ้นได้ แต่ก็สามารถติดตามเพื่อนำมาคืนให้ได้ทันทีเช่นกัน จะเห็นว่ามีประโยชน์อย่างมากที่มีระบบที่ช่วยบันทึกการทำธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้
- การใช้งาน สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เป็นเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดที่พัฒนาขึ้นมานั้นย่อมมีปัญหาและอุปสรรคในการใช้งานในช่วงแรกแน่นอนอยู่แล้ว แต่เมื่อเทียบกับการใช้เงินกระดาษที่ไม่สามารถติดตามหรือป้องกันอะไรได้ การเลือกใช้ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ แบบนี้จะดีกว่าที่มีหน่วยงานที่สามารถติดตามเงินที่ถูกโจรกรรมไปได้
สำหรับการใช้ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นจะยิ่งส่งผลดีต่อการลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซีมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะว่า สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ และ Stablecoins นั้นทำหน้าที่เหมือนกันมีแนวทางการใช้งานที่คล้ายกัน เมื่อมีการใช้งานมากขึ้นนักลงทุนหน้าใหม่ก็สามารถเข้ามาลงทุนในเหรียญคริปโตเคอเรนซีได้ง่ายขึ้น จากการเรียนรู้วิธีการใช้งานของ สกุลเงินดิจิทัลดอลลาร์สหรัฐฯ