ในขณะที่หน่วยงานกำลังมองหาช่องทางในการเข้ามากับดูแลภาค Crypto ผู้เชี่ยวชาญมากมายก็ออกมาอภิปรายว่า สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่จะมาแทนเงินสดเพื่อใช้จ่าย ผู้บริโภคจำนวนมากใช้สกุลเงินดิจิทัลเพื่อไปซื้อของ
ผู้บริโภคที่หมายถึงบรรดาผู้ที่เป็นเจ้าของ crypto อย่างน้อยหนึ่งตัว ซึ่งมีปริมาณทั้งหมด 59.6 ล้านคน จากผลสำรวจพบว่า 23% ของผู้บริโภคในสหรัฐฯ หรือประมาณ 16.1 ล้านคนใช้ crypto ของพวกเขาเพื่อซื้อสินค้าออนไลน์ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา และ 7.1 ล้านคนใช้มัน เพื่อไปช้อปปิ้งที่ร้านค้าจริง
แบบสำรวจเกี่ยวกับการใช้งาน Crypto
ในสหรัฐอเมริกา คนที่ซื้อของด้วย crypto ต้องการตัวเลือกในการใช้จ่ายเป็นอย่างมาก จนหนึ่งในสามของผู้บริโภคกล่าวว่าพวกเขาจะเปลี่ยนพ่อค้าหากมันหมายความว่าพวกเขาสามารถจ่ายด้วยสกุลเงินดิจิทัลได้ ตามการสำรวจ “ผู้บริโภคที่ใช้ Crypto ของสหรัฐอเมริกา ใช้ Cryptocurrency ในการทำธุรกรรมออนไลน์ และ การช้อปปิ้งในร้านค้า” โดยส่วนมากจะใช้ BitPay เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรม ซึ่งจากการทำผลสำรวจโดยใช้วิธีแบบสอบถามกับผู้บริโภคพบว่า
66% ของผู้ตอบแบบสอบถามยังใช้บัตรของขวัญ crypto หรือบัตรเดบิตในร้านค้า และผู้ตอบแบบสอบถาม 26% ระบุว่าพวกเขาสนใจเป็นอย่างมาก ที่จะใช้ crypto เพื่อซื้อสินค้าจากผู้ค้าปลีกที่เสนอรางวัลและส่วนลด
รายงานยังแสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคที่มีรายได้สูง และกลุ่มมิลเลนเนียลมีแนวโน้มมากที่สุดที่จะเห็นสกุลเงินดิจิทัลเป็นเครื่องมือในการใช้จ่าย 48% ของคนรุ่นมิลเลนเนียลและ 32% ของผู้บริโภคที่มีรายได้สูงมองว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นวิธีการชำระเงินที่ได้ผล ในขณะเดียวกัน 36% ของผู้บริโภคมีการรับรู้ที่เป็นกลางหรือเชิงลบต่อ cryptocurrencies เป็นทางเลือกในการชำระเงิน
จำนวนผู้บริโภคที่เป็นเจ้าของ cryptocurrencies เพิ่มขึ้น 4% ในปีนี้จากปี 2021 ปีที่แล้ว มีเพียง 12% ของผู้ตอบแบบสำรวจรายงานว่าขณะนี้พวกเขาถือ cryptocurrencies
Bitcoin เป็นสกุลเงินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดในแง่ของการยอมรับ การใช้งาน การเข้าถึงได้จากผู้ใช้ และการรับรู้ ในบรรดาผู้ตอบแบบสำรวจ 12% มี bitcoin 5% ถือไว้ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และ 2% ถือไว้ในบางช่วงเวลา
จาก 74% ของผู้บริโภคที่ไม่เคยถือ bitcoin มาก่อน ส่วนใหญ่กล่าวว่าพวกเขาเคยได้ยินเรื่องนี้ โดยมีเพียง 8% เท่านั้นที่ระบุว่าพวกเขาไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับ bitcoin Ethereum และ dogecoin ที่เป็นหนึ่งในเหรียญยอดนิยม
แหล่งข่าว: pymnts.com