มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของ สกุลเงินดิจิทัล ร่วงลงต่ำกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว ท่ามกลางสภาวะตลาดที่รุนแรง
จากข้อมูลของ Coinmarketcap มูลค่าตลาดของ crypto ทั่วโลกอยู่ที่ 983,720 ล้านดอลลาร์ ลดลง 11.23% จากวันที่ผ่านมา
ร่วงทั้งตลาด ไม่ใช่แค่ Bitcoin
ปริมาณธุรกรรมการซื้อขายในตลาด cryptocurrency ทั้งหมดในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาคือ 123,040 ล้านดอลลาร์ซึ่งเพิ่มขึ้น 44.78% ปริมาณการซื้อขายโดยรวมใน DeFi ปัจจุบันอยู่ที่ 9,240 ล้านดอลลาร์ หรือ 7.51% ของปริมาณตลาด crypto ทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมง ปริมาณของ Stable Coins ทั้งหมดอยู่ที่ 110,010 ล้านดอลลาร์ ซึ่งคิดเป็น 89.41% ของปริมาณตลาด crypto ทั้งหมดตลอด 24 ชั่วโมง
สกุลเงินดิจิทัล ที่ใหญ่ที่สุดคือ bitcoin มีมูลค่าลดลงมากกว่า 9% ในวันนี้ ซึ่งตกลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือนที่ 23,950 ดอลลาร์
Ether ปรับตัวลดลงมากถึง 9% ที่ 1,342.32 ดอลลาร์ เหรียญ สกุลเงินดิจิทัล อื่น ๆ รวมถึง Cardano, Dogecoin, Polkadot และ Avalanche ก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน
ตลาด Crypto กำลังอยู่ภายใต้แรงกดดัน
ตลาด Crypto อยู่ภายใต้แรงกดดันควบคู่ไปกับหุ้นและสินทรัพย์อื่น ๆ ในตลาดการเงิน ท่ามกลางอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น การล่มสลายในเดือนพฤษภาคมของสิ่งที่เรียกว่า Stablecoin terraUSD และ token luna ได้ทำให้อุตสาหกรรม Crypto สั่นคลอนเช่นกัน
bitcoin ร่วงลงอีกหลังจาก Celsius Network ระงับการถอน สกุลเงินดิจิทัล โดยปรับตัวลดลงมากกว่า 7.8% ที่ 24,502 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020
ในบล็อกโพสต์ บริษัท Celsius กล่าวว่ามีการระงับการถอนเงิน เช่นเดียวกับการโอนระหว่างบัญชี “เพื่อรักษาเสถียรภาพของสภาพคล่อง และการดำเนินงานในขณะที่เราดำเนินการเพื่อรักษาและปกป้องทรัพย์สิน”
นักลงทุนมากมายกำลังดึงเงินออกจากสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ เข้มงวดขึ้นหลังจากข้อมูลเมื่อวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง สิ่งนี้ทำให้เกิดการเทขายในสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึง Crypto และหุ้น
นี่อาจจะเป็นสิ่งที่ยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า ตลาดคริปโตได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมีอย่างเต็มที่แล้ว ฤดูหนาวมาถึงแล้ว! และยังไม่มีสัญญาณกลับตัวของตลาดที่ชัดเจน ที่สำคัญที่สุด คือนักวิเคราะห์มากมายทั่วโลกต่างก็ไม่รู้ว่าตลาดขาลงในครั้งนี้จะไปสิ้นสุดที่ตรงไหน
แหล่งข่าว: livemint.com