จากการรายงานของ CFTC ที่ได้จับตาดูการลงทุนสินทรัพย์ทุกประเภทได้เห็นภาพรวมของตลาดทั้ง พันธบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ บิทคอยน์ รวมถึง คริปโตเคอเรนซี อื่น ๆ นั้นกำลังมีการปรับตัวที่สูงขึ้น ทั้งจากราคาของ พันธบัตรดอลลาร์ และ การช้อนซื้อ บิทคอยน์ อย่างมากมายของรายใหญ่ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้
CFTC รายงาน ยอดซื้อสุทธิดอลลาร์ปรับสูงขึ้น บิทคอยน์ทำสถิติสูงสุดใหม่
Commodity Futures Trading Commission ( CFTC ) เป็นหน่วยงานที่เป็นอิสระจากรัฐบาลสหรัฐฯ สร้างขึ้นในปี 1974 ที่ควบคุมการตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการซื้อขายแบบฟิวเจอร์ส ได้ออกมารายงานว่า ในวันศุกร์ที่ 29 เม.ย. 2022 ที่ผ่านมา ได้มีข้อมูลของนักเก็งกำไรปรับเพิ่มการถือครองสถานะซื้อสุทธิในดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์
โดยที่สถานะซื้อสุทธิดอลลาร์ปรับขึ้นสู่ 1.392 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. 2022 ซึ่งถือเป็นเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนเม.ย. 2022 ได้มีการปรับขึ้นจาก 1.291 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. 2022 ทั้งนี้ สถานะการลงทุนดังกล่าววัดจากสถานะการลงทุนของนักเก็งกำไรในตลาดเงินระหว่างประเทศ ( IMM ) ในเยน ยูโร ปอนด์ ฟรังก์สวิส ดอลลาร์ออสเตรเลีย และ ดอลลาร์แคนาดา
สำหรับสถานะซื้อสุทธิในสัญญาล่วงหน้าของ บิทคอย์ อยู่ที่ 412 สัญญาในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. 2022 ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดเช่นเดียวกันนับตั้งแต่เริ่มมีการเปิดซื้อขายสัญญานี้ในปี 2018 เป็นต้นมา โดยก่อนหน้านี้นักเก็งกำไรเพิ่งถือครองสถานะขายสุทธิในบิทคอยน์ 194 สัญญาในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 19 เม.ย. 2022
แต่ในตอนนี้ บิทคอยน์ ได้เข้าสู่ช่วงผันผวนที่ระดับ 34,000 – 38,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับ บิทคอยน์ จากสงครามยูเครน อัตราเงินเฟ้อ รวมถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ( FED )
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ พุ่งตอบรับนโยบาย FED
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ พุ่งขึ้นราว 5% ในเดือนเม.ย. 2022 ซึ่งถือเป็นการพุ่งขึ้นรายเดือนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 2015 เป็นต้นมา หรือครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 7 ปี โดยดอลลาร์ได้รับแรงหนุนในช่วงที่ผ่านมาจากสงครามยูเครน – รัสเซีย และจากนโยบายการเร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) ในรายงานของ CFTCครั้งนี้ได้บ่งชี้ว่า ดอลลาร์มีโอกาสแข็งค่าขึ้นต่อไปได้อีก เพราะว่านักลงทุนอาจจะยังไม่ได้เข้าร่วมอย่างเต็มที่ในการพุ่งขึ้น 5% ของดอลลาร์สหรัฐฯ ถ้าหากว่าแนวโน้มการลงทุนนั้นเข้ามาอยู่ในเงินดอลลาร์สหรัฐฯ การเติบโตนั้นจะมีโอกาสสูงมากขึ้นกว่า 5% อย่างแน่นอน
ในช่วงนี้เป็นช่วงที่นักลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงจะต้องระมัดระวังอย่างมากสำหรับการลงทุน จากทั้งในเรื่องของภาวะเศษรฐกิจและนโยบายในการควบคุมการเงินที่เข้มข้นขึ้นของ FED สินทรัพย์เสี่ยงน้อยมีโอกาสตกต่ำลงอย่างมากในตอนนี้ แต่สำหรับพันธบัตรดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นมีแนวโน้นเพิ่มขึ้น สิ่งที่นักลงทุนควรจะทำคือต้องประเมินการลงทุนต่าง ๆ ให้รอบด้านและวางแผนการลงทุนตามความเหมาะสม แบ่งการลงทุนให้สินทรัพย์ต่าง ๆ เพื่อลดโอกาสการขาดทุนได้ในช่วงนี้