ความหายนะของ Terra ( LUNA ) ที่เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น เป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่ทำให้เกิดคำถามถึงอรรถประโยชน์ในโลกแห่งความเป็นจริงรวมถึงความอยู่รอดในระยะยาวของอัลกอรึธึม Stablecoins ว่ามีเสถียรภาพที่ดีหรือไม่ที่จะนำเข้ามาใช้ในตอนนี้
การล่มสลายของ Terra ส่งผลต่อภาพรวมในอุตสาหกรรม คริปโตเคอเรนซี
สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นช่วงเวลาที่มืดมนในประวัติศาสตร์ของ คริปโตเคอเรนซี โดยมูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมนี้ลดลงเหลือเพียง 1.2 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2564 ความวุ่นวายส่วนใหญ่เกิดจาก การสลายตัวของเวลาของ Terra ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่ Cosmos ใช้เพื่อที่ขับเคลื่อนชุดอัลกอริทึมของ Stablecoins ( TerraUSD ) ให้สามารถคงมูลค่าเท่ากับ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ได้
ประมาณหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา Terra ( LUNA ) ติดอันดับหนึ่งใน 10 สกุลเงินดิจิทัลที่มีค่าที่สุดในตลาด โดยซื้อขายโทเคนที่ราคาประมาณ 85 ดอลลาร์สหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม ราคาของสินทรัพย์ได้ลดลงเหลือ 15 ดอลลาร์สหรัฐฯ และใน 48 ชั่วโมงต่อมา โทเคนได้สูญเสียมูลค่า 99.98% ของมูลค่าซื้อขายในปัจจุบันที่จุดราคา 0.00003465 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เนื่องจากการล่มสลายอย่างต่อเนื่องของ TerraUSD ( UST ) ซึ่งเป็นเหรียญที่เกี่ยวข้องกับส่วนอื่น ๆ ของ Terra ซึ่งเป็นอัลกอริธึม Stablecoin ที่ตรึงกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในอัตราส่วน 1:1 ได้สูญเสียการตรึงเงินดอลลาร์และปัจจุบันซื้อขายที่ $0.079527 ซึ่งถือว่าหมดความเป็น Stablecoin ไปเลยในตัว จึงเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับการสร้าง Stablecoin ที่ใช้อัลกอริธึมเพื่อทำงานนั้นเป็นสิ่งที่ควรจะมีหรือไม่
ในตอนนี้การล่มสลายนี้ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของอุตสาหกรรม คริปโตเคอเรนซี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสายตาของนักลงทุน ซึ่งส่วนใหญ่เชื่อว่าความผิดพลาดนี้อาจส่งผลให้ฝ่ายนิติบัญญัติเข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับ Decentralized Stablecoin และอาจนำไปสู่รัฐบาลหลายแห่งที่สำรวจอย่างจริงจังถึงการสร้างเหรียญ Stablecoin แบบรวมศูนย์ของตนเองและสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ( CBDCs )
ระบบนิเวศของ Terra
โปรโตคอล Terra ขับเคลื่อนโดยใช้โทเคนหลักสองตัว คือ UST และ LUNA เป็นเหรียญที่เข้ามามีส่วนร่วมในเครือข่ายมีความสามารถในการสร้าง UST โดยการเผาหรือสร้างเหรียญ LUNA ในการทำงานของ Terra Station Portal พูดง่ายๆ ก็คือ ให้นึกภาพ เศรษฐกิจของ Terra ว่าเป็นกลุ่มที่ประกอบด้วยสองกลุ่มหลัก ได้แก่ กลุ่มแรกสำหรับ TerraUSD และอีกกลุ่มสำหรับ LUNA
เพื่อรักษามูลค่าของ UST กลุ่มอุปทานของ LUNA จะเพิ่มหรือลบออกจากคลังของตน โดยที่ลูกค้าจะต้องเผา LUNA เพื่อสร้าง UST และในทางกลับกัน การกระทำทั้งหมดเหล่านี้เกิดจากอัลกอริธึมของแพลตฟอร์ม ที่ทำให้กรอบการทำงานของ UST แตกต่างอย่างมากกับ Stablecoin คู่แข่งอย่าง Tether ( USDT ) และ USD Coin ( USDC ) ซึ่งทั้งคู่ได้รับการสนับสนุนจากสินทรัพย์ Fiat โดยตรง เป็นหลักประกันเพื่อรักษามูลค่า
มีความพยายามที่จะควบคุมความเสียหายแต่ไม่เป็นผล
ทันทีที่ LUNA และ UST เข้าสู่ภาวะลดลงอย่างรวดเร็ว Do Kwon ผู้ร่วมก่อตั้งโปรโตคอลได้ปล่อยทวิตชุดหนึ่งที่ประกาศมาตรการแก้ไขเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลออกอีก ในขั้นเบื้องต้นในการตอบโต้เปลี่ยนแปลงของ UST กับเงินดอลลาร์ Kwon ได้เสริมกำลังการเผาไหม้ UST ซึ่งตอนนี้เราทราบแล้วว่าไม่สำเร็จ ถึงจะพยายามแค่ไหนก็ไม่ทัน เมื่อมีนักลงทุนจำนวนมากทยอยขายเหรียญ UST ออกไปจำนวนมาก
และยิ่งเป็นผลเสียมากขึ้นไปอีก เมื่อการทำงานของอัลกอริธึมได้ทำการสร้างเหรียญ LUNA ขึ้นมามากมายมหาศาล เพื่อต่อต้านการโดนโจมตีด้านมูลค่าในตอนนี้ ซึ่งก็ไม่เป็นผลอีกเช่นเดียวกัน ทำให้มีนักลงทุนมากมายเชื่อว่า แนวคิดทั่วไปที่เกี่ยวกับอัลกอริธึมของ Stablecoins ที่ทำงานในตัวของมันเองนั้นบอบบางอย่างมาก เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์สำรองที่แท้จริงเพื่อช่วยแก้ไขเมื่อเกิดวิกฤตแบบนี้ขึ้น รวมถึง Do Kwon ประกาศว่าเขากำลังจะซื้อ บิทคอยน์ ( BTC ) มูลค่ารวม 10 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นทุนสำรองของ UST จึงทำให้มีความเสี่ยงมากขึ้นไปอีกเพราะมูลค่าของ บิทคอยน์ ก็ลดลงเช่นเดียวกัน
Terra Blockchain ได้หยุดทำงานชั่วคราว
เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม ผู้ให้บริการเครือข่าย Terra ได้ตัดสินใจยุติการทำกิจกรรมดิจิทัลใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบนิเวศ เพื่อพยายามลดการโจมตี และการกำกับดูแลที่อาจเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อโทเคน LUNA ของเครือข่ายมีมูลค่าลดลงเหลือน้อยอย่างมากลดลงจนเกือบ 100%
โฆษกของบริษัทได้ออกมาบอกว่า นักพัฒนาไม่มั่นใจในความสามารถของพวกเขาในการป้องกันของระบบ Blockchain อีกต่อไป จึงต้องมีการปิดการทำงานชั่วคราวก่อนเพื่อไม่ให้มีเหตุการณ์อื่น ๆ นั้นเข้ามาซ้ำเติมได้อีก
ผลที่ตามมาของคู่การซื้อขาย LUNA/USDT ที่ลดลงต่ำกว่า 0.005 USDT จึงถูกเพิกถอนจาก Binance การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากการถอนโทเคน LUNA ของ Huobi และกระดานเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ ก็เริ่มเคลื่อนไหวตามมาเช่นกัน