Metaverse เป็นจักรวาลเสมือนจริงที่รวมเอาความเป็นจริงทางกายภาพและโลกเสมือนดิจิทัลในสภาพแวดล้อมที่มีผู้ใช้หลายคนเข้ามาร่วมอยู่ในโลกเสมืองจริงร่วมกัน
Metaverse สร้างขึ้นจากเทคโนโลยีความจริงเสริม ( AR ) และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน ( VR ) ซึ่งช่วยให้เข้าถึงโลกเสมือนแบบดิจิทัล พบกับสภาพแวดล้อมเสมือนจริง และผู้คนที่เข้ามาร่วมกันในโลกเสมือนจริงนี้ ด้วยเหตุนี้ Metaverse จึงเป็นระบบที่มอบประสบการณ์เสมือนจริงบนเครือข่ายและโซเชียลในแพลตฟอร์ม ที่ใช้งานพร้อมผู้ใช้งานหลายคน แล้วเทคโนโลยีใดบ้างที่เป็นตัวขับเคลื่อนของ Metaverse
Metaverse ทำงานอย่างไร
Jon Radoff ( ผู้ประกอบการ นักประพันธ์ และนักออกแบบเกม ) เสนอกรอบแนวคิดเจ็ดระดับเพื่อกำหนดห่วงโซ่คุณค่าของตลาด Metaverse ที่ช่วยขับเคลื่อนให้โลกของ Metaverse นั้นเติบโตได้มากขึ้น
ตามกรอบงาน Metaverse ถูกแบ่งออกเป็น 7 ชั้น ประกอบด้วยประสบการณ์ การค้นพบ เศรษฐกิจของผู้สร้าง การคำนวณเชิงพื้นที่ การกระจายอำนาจ ส่วนต่อประสานกับมนุษย์ และโครงสร้างพื้นฐาน โดยในแต่ละส่วนจะมีรายละเอียดดังนี้
ประสบการณ์
Metaverse จะสร้างโลกแบบสามมิติ ( 3D ) และประสบการณ์สองมิติ ( 2D ) ที่ให้ทุกคนเข้าถึงได้ทั่วทุกมุมโลก
การค้นพบ
ระบบการค้นพบ ขาเข้าและขาออก ยังคงมีอยู่ในระบบนิเวศของ Metaverse เมื่อผู้คนกำลังค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้อง สิ่งนี้เรียกว่าการค้นพบขาเข้า ในขณะเดียวกัน การตลาดขาออกหมายถึงการส่งการสื่อสารไปยังผู้คนโดยไม่คำนึงว่าพวกเขาร้องขอหรือไม่
เศรษฐกิจของผู้สร้าง
ผู้สร้างโลกยุคก่อน ๆ ของอินเทอร์เน็ตต้องการความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมเพื่อออกแบบและสร้างเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันโดยไม่ต้องเขียนโค้ดสามารถทำได้แล้ว เนื่องจากเฟรมเวิร์กของเว็บแอปพลิเคชัน ส่งผลให้จำนวนผู้สร้างเว็บเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
การคำนวณเชิงพื้นที่
การคำนวณเชิงพื้นที่หมายถึงเทคโนโลยีที่ผสมผสาน VR และ AR HoloLens ของ Microsoft เป็นตัวอย่างที่ยอดเยี่ยมของสิ่งที่เทคโนโลยีนี้สามารถทำได้ หรือการใช้งานตัวกรองใบหน้าบน Instagram เป็นตัวอย่างของการคำนวณเชิงพื้นที่ที่ดีในตอนนี้
การกระจายอำนาจ
นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถออนไลน์ผ่านระบบนิเวศที่รองรับการปรับเปลี่ยนขนาดได้ซึ่งเปิดใช้งานโดยการทำงานแบบกระจายและไมโครเซอร์วิส นอกจากนี้บล็อกเชนยังช่วยให้ผู้สร้างเข้าถึงข้อมูลและผลิตภัณฑ์ของตนเองได้ง่ายมากขึ้น กำกับดูแลข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างดียิ่งขึ้น
ส่วนต่อประสานกับมนุษย์
ผู้ใช้สามารถรับข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งรอบตัว ใช้แผนที่ และแม้แต่การเข้าถึงประสบการณ์แบบ AR เพียงแค่มองไปรอบ ๆ โลกจริง แล้วประมวลผลข้อมูลเข้าสู่โลกเสมือน
โครงสร้างพื้นฐาน
โครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีมีความสำคัญต่อการมีอยู่ของเลเยอร์อื่น ๆ รวมถึงระบบเน็ตเวิร์ก 5G และ 6G เพื่อลดความแออัดของเครือข่ายและปรับปรุงแบนด์วิดท์ของเครือข่ายรองรับการใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
เทคโนโลยีใดบ้างที่ใช้ใน Metaverse
การพัฒนาล่าสุดของ Metaverse เกิดขึ้นได้เนื่องจากการรวมกันของเทคโนโลยีต่าง ๆ เช่น ปัญญาประดิษฐ์ ( AI ), Internet of Things ( IoT ), AR, VR, การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ และ การคำนวณเชิงพื้นที่ Edge Computing โดยที่แต่ละอย่างนั้นจะมีรายละเอียดดังนี้
ปัญญาประดิษฐ์
AI ที่จับคู่กับเทคโนโลยี Metaverse ช่วยให้มั่นใจถึงความเสถียรของโครงสร้างพื้นฐาน Metaverse โดยที่มีเทคโนโลยีของ NVIDIA เป็นตัวอย่างที่ดีว่า AI จะมีความสำคัญอย่างไรในการพัฒนาพื้นที่ดิจิทัลที่ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมจะเกิดขึ้นใน Metaverse
Internet of Things ( IoT )
แม้ว่า IoT จะช่วยให้ Metaverse สามารถเรียนรู้และโต้ตอบกับโลกแห่งความเป็นจริงได้ รวมถึงการทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซผู้ใช้ 3 มิติ สำหรับอุปกรณ์ IoT ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น ทั้ง Metaverse และ Internet of Things จะช่วยองค์กรในการตัดสินโดยใช้ข้อมูลโดยใช้ความพยายามเพียงเล็กน้อย
เติมความเป็นจริงและเสมือนจริง
แนวคิดของ Metaverse ผสมผสานเทคโนโลยีอย่าง AI, AR และ VR เพื่อให้ผู้ใช้เข้าสู่โลกเสมือนจริง ตัวอย่างเช่น สามารถฝังรายการเสมือนในสภาพแวดล้อมจริงโดยใช้เทคโนโลยีความจริงเสริม ในทำนองเดียวกัน VR จะช่วยให้คุณดื่มด่ำกับสภาพแวดล้อมเสมือนจริง 3 มิติหรือการสร้าง 3 มิติใหม่โดยใช้การสร้างแบบจำลองคอมพิวเตอร์ 3 มิติ
ใน Metaverse ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า VR จะกลายเป็นส่วนสำคัญของสภาพแวดล้อมเสมือนจริง อย่างไรก็ตาม ต้องสังเกตว่า Metaverse นั้นแตกต่างจาก AR และ VR หากคุณอยากรู้ว่าคุณจะเข้าสู่ Metaverse ได้อย่างไร คำตอบก็คือเทคโนโลยีความจริงเสมือนเป็นช่องทางหนึ่งในการเข้าสู่โลกดิจิทัล 3 มิติแบบไดนามิก ไม่ใช่ทั้งหมดของ Metaverse
การสร้างแบบจำลอง 3 มิติ
การสร้างแบบจำลอง 3 มิติเป็นแนวทางคอมพิวเตอร์กราฟิกสำหรับการสร้างการแสดงดิจิทัลสามมิติของพื้นผิวหรือวัตถุใด ๆ ความเป็นจริง 3 มิติของ Metaverse มีความสำคัญอย่างมากในการสร้างโลกจำลองขึ้นมา เหมือนเป็นพื้นฐานที่สำคัญของ Metaverse
การคำนวณเชิงพื้นที่และ Edge Computing
เพื่อการตอบสนองกับผู้ใช้งานได้อย่างรวดเร็ว ระบบการคำนวณเชิงพื้นที่นั้นสำคัญอย่างมากที่จะใช้ประมวลผลข้อมูลต่าง ๆ และตอบสนองทุกอย่างให้รวดเร็วและทันที ทำให้ผู้ใช้งานนั้นรู้สึกเหมือนกำลังเข้าอยู่ในโลกนั้นจริง ๆ
ซึ่งหลาย ๆ อย่างของ Metaverse นั้นเป็นเรื่องท้าทายอย่างมากที่จะทำให้เกิดขึ้นได้และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปัจจุบันนี้การใช้งานของโลก Metaverse นั้นเริ่มมีบ้างแล้ว แต่ยังไม่ใช้รูปแบบของโลกเสมือนจริงเต็ม 100% ที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้ทะลุเข้ายังอีกโลกหนึ่งได้ ยังคงต้องมีการพัฒนาต่อไปในอนาคตแต่ก็อีกไม่นานแน่นอนก็จะเริ่มทดลองใช้งานโลกของ Metaverse กันแล้ว