ในตอนนี้ธนาคารกลางเผชิญกับความยากลำบากที่พวกเขาพยายามสร้าง CBDC ที่ใช้งานได้จริงขึ้นมาเพื่อทดแทนเงินกระดาษในอนาคต ในการสร้างนั้นจะต้องคำนึงถึง ข้อมูลประจำตัว ความสามารถในการใช้งาน และความเป็นส่วนตัว ล้วนมีความสำคัญเมื่อพูดถึง CBDC ที่ออกแบบมาเพื่อให้คนทั่วไปใช้งานได้ แต่การมุ่งเน้นที่สกุลเงินหนึ่งอาจทำให้อีกสกุลเงินหนึ่งต้องเสียไปด้วยเช่นกัน ถือว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญ
อะไรคือความท้าทายในการออกแบบ CBDC ของธนาคารกลาง
หลายประเทศที่ต้องการสร้าง CBDC มีการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ ข้อมูลประจำตัวของผู้ที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้จะต้องตรวจสอบได้เพื่อให้แน่ใจว่าเงินจะไม่ถูกใช้สำหรับการฟอกเงินหรือกิจกรรมที่ผิดกฎหมายในรูปแบบอื่น ๆ
แต่ว่า ระบบที่ใช้ข้อมูลประจำตัวใด ๆ จะจบลงด้วยการคุกคามความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ และทำให้สกุลเงินดิจิทัลที่ต้องการสร้างขึ้นมานั้นจะต้องแก้ปัญหาเหล่านี้ให้ได้ ด้วยเหตุนี้ธนาคารกลางจึงพยายามสร้าง CBDC ที่มีการรักษาความปลอดภัยและข้อมูลส่วนตัว เป็นความท้าทายที่สำคัญ
CBDC มีปัญหากับตัวเลือกการออกแบบในปัจจุบันหรือไม่
โซลูชัน CBDC แบบชำระเงินจำนวนมากจะต้องเสียความเป็นส่วนตัวเพื่อให้ได้ข้อมูลประจำตัวและความสามารถในการเข้าใช้งานของโปรแกรม
ตอนนี้ เราเห็น CBDC ที่ใช้บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากที่ใช้ระบบที่ไม่ต้องให้ระบุข้อมูลระบุตัวตนผู้ใช้เพื่อให้ได้ความเป็นส่วนตัวและการตั้งค่าของโปรแกรม แต่สำหรับ CBDC ที่มีระบบข้อมูลประจำตัวที่น้อย หรือไม่มีเลยนั้น อาจส่งผลที่ไม่พึงประสงค์ต่อผู้ใช้ปลายทาง ไม่มีความน่าเชื่อถือมากเท่าที่ควรถ้าหากไม่มีข้อมูลผู้ใช้งานบันทึกไว้
แต่ว่าหากไม่มีระบบดังกล่าว ผู้ใช้งานที่ลืมหรือใส่คีย์ส่วนตัวของตนผิดที่อาจทำให้สูญเสียการเข้าถึงทรัพย์สินทั้งหมดของตน ทำให้เกิดปัญหาซ้ำกับคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นอีกด้วยเช่นกัน ทำให้ตอนนี้มีทางเลือกในการสร้างที่ต้องตัดสินใจให้รอบคอบมากที่สุด
จะเกิดอะไรขึ้นหาก CBDC มีกลไกการระบุตัวตนที่ดี
CBDC สามารถพัฒนาอิงตามเกตเวย์การชำระเงินแบบดั้งเดิมได้ เป็นการนำเสนอโซลูชันตามบัญชีพร้อมกลไกการระบุตัวตนที่ดีที่มีการใช้งานได้แล้วในปัจจุบันนี้
วิธีนี้ไม่เพียงแต่เข้ากันได้กับระบบธนาคารทั่วไปแบบ 100% และเป็นไปตามกฎหมายเท่านั้น แต่ยังมีระบบช่วยเหลือแก่ผู้ใช้ในกรณีที่คีย์ส่วนตัวของพวกเขาหายไป ในตอนนี้ สถานการณ์ดังกล่าวสามารถปฏิบัติได้เหมือนกับการลืมรหัสผ่านไปยังบัญชีธนาคารแบบทั่วไป ข้อมูลสามารถกู้คืนได้อย่างง่ายดาย
ความจริงที่ว่าข้อมูลส่วนบุคคลนั้นสามารถนำมาใช้งานได้ หมายความว่าสามารถแนะนำคุณลักษณะด้านเงินที่ตั้งไว้โปรแกรมมาประมวลผลต่อได้ ตัวอย่างที่ดีอาจเป็นการแนะนำการเก็บภาษีแบบอัตโนมัติ ซึ่งเงินจะถูกหักทันทีตามรายได้ของพวกเขา
แม้ว่าทั้งหมดนี้จะเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับธนาคารกลาง แต่ระบบที่รวมศูนย์ดังกล่าวก็มีข้อเสีย ที่อาจจะถูกโจมตีได้ง่ายกว่าการกระจายและข้อมูลรั่วไหลได้
CBDC ได้เริ่มที่สนใจสร้างขึ้น แต่ในทางปฏิบัตินั้นเป็นอย่างไร
ธนาคารกลางตระหนักดีถึงสามประการของการออกแบบเงินสกุลดิจิทัลนี้ และธนาคารกลางยุโรปซึ่งได้กล่าวมานานแล้วว่าการแปลงเงินเป็นดิจิทัลนั้น “แสดงถึงความท้าทายที่สำคัญสำหรับระบบนิเวศการชำระเงินโดยกำหนดให้มีความสมดุลระหว่างการอนุญาตความเป็นส่วนตัวในการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ในระดับหนึ่งและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่มุ่งแก้ปัญหาการฟอกเงิน และการจัดหาเงินทุนเพื่อการก่อการร้าย”
Bank of England ซึ่งกำลังพิจารณาเกี่ยวกับ CBDC ที่เป็นไปได้สำหรับสหราชอาณาจักร ไม่จำเป็นว่าสกุลเงินดังกล่าวจำเป็นต้องสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีการกระจายอำนาจ “ไม่มีเหตุผลโดยธรรมชาติที่ไม่สามารถสร้างขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีแบบรวมศูนย์แบบเดิมได้” ทำให้ CBDC มีความยืดหยุ่นและพร้อมใช้งานมากขึ้น แต่อาจทำให้ประสิทธิภาพ ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยลดลง