การขุด Bitcoin เป็นกระบวนการสร้างเหรียญ Bitcoin ใหม่ด้วยการถอดรหัสสมการทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อนผ่านคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งชิปพิเศษ หรือที่รู้จักกันว่า ASIC โดยผู้ที่สามารถแก้สมการได้สำเร็จก่อนก็จะได้รับรางวัลเป็นเหรียญ Bitcoin หรือ BTC มูลค่า 6.25 BTC ต่อ 1 บล็อก อย่างไรก็ตาม มูลค่าของรางวัลที่จะได้รับจาก เครื่องขุด bitcoin คืออะไร จะลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี โดยสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ในหัวข้อ Bitcoin Halving ปรากฏการณ์ที่สายขุดต้องรู้จัก ปัจจุบัน จำนวน bitcoin มีอยู่จำกัดที่ประมาณ 21 ล้านเหรียญ ซึ่งล่าสุด ณ เดือนเมษายน 2022 bitcoin ถูกขุดไปแล้วกว่า 19.01 ล้านเหรียญ หรือราว 90% ของจำนวน bitcoin ทั้งหมด
Bitcoin Halving ปรากฏการณ์ที่สายขุดต้องรู้จัก
Bitcoin Halving เป็นรางวัลสำหรับการขุด Bitcoin ซึ่งจะลดลงครึ่งหนึ่งในทุก ๆ 4 ปี โดยเมื่อปี 2009 ที่ Bitcoin ถือกำเนิดขึ้นเมื่อเราขุด Bitcoin เราจะได้รับผลตอบแทนจากการขุดถึง 50 BTC ต่อ 1 บล็อก ในปี 2012 ผลตอบแทนที่ได้รับจะลดเหลือครึ่งหนึ่งที่ 25 BTC ต่อ 1 บล็อก ปี 2016 ก็จะเหลือ 12.5 BTC ต่อ 1 บล็อก และในปี 2020 ที่เกิดเหตุการณ์ Bitcoin Halving ครั้งที่ 3 ทำให้รางวัลที่จะได้จากการขุดเหลือ 6.25 BTC ต่อ 1 บล็อก ซึ่งเป็นผลตอบแทนที่จะได้หากเราขุด Bitcoin ได้ตอนนี้นั่นเอง และนั่นก็หมายความว่าปี 2024 หรืออีก 2 ปีที่จะถึงนี้ เหตุการณ์ Bitcoin Halving ครั้งที่ 4 จะทำให้รางวัลจากการขุด Bitcoin เหลือเพียง 3.125 BTC ต่อ 1 บล็อก หรือลดลงจากปี 2009 กว่า 1500% เลยทีเดียว เครื่องขุด bitcoin คืออะไร
ขุด Bitcoin ทำลายโลกจริงหรือ เครื่องขุด bitcoin คืออะไร ที่ทำลายโลก
ช่วงต้นของการกำเนิด Bitcoin นักขุดสามารถใช้โปรแกรมขุดบนคอมพิวเตอร์ในการขุด Bitcoin ได้ แต่เมื่อเครือข่ายของ Bitcoin มีขนาดใหญ่ขึ้นและเริ่มมีนักขุดมากมายเข้ามาหารายได้จากการขุด Bitcoin มากขึ้นอัลกอริธึมในการขุด Bitcoin ก็ยากขึ้น แม้ว่าประสิทธิภาพของชิป ASIC จะเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก แต่การเติบโตของเครือข่าย Bitcoin อย่างรวดเร็วก็แซงหน้าความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการขุด Bitcoin เนื่องจากต้องใช้พลังงานอย่างมหาศาลในการทำงาน อ้างอิงจากข้อมูลของ XRP Ledger ที่กล่าวว่าบิตคอยน์ใช้ไฟฟ้าต่อชั่วโมงมากที่สุดถึง 951.58 กิโลวัตต์ชั่วโมง ในขณะที่เงินสดใช้ไฟฟ้า 0.044 กิโลวัตต์ชั่วโมง ส่วนมาสเตอร์การ์ด ( Master Card ) ใช้ไฟฟ้าน้อยที่สุดเพียง 0.0006 กิโลวัตต์ชั่วโมง หรือน้อยกว่าบิตคอยน์ถึง 1.58 ล้านเท่า
เครื่องขุด bitcoin คืออะไร บ้างและขุดอย่างไรให้ปัง
ปัจจัยที่นักขุด Bitcoin ต้องคำนึงมีอยู่ 3 ปัจจัยหลัก ๆ ซึ่งได้แก่ เครื่องขุด ค่าไฟฟ้า และ โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย
1.เครื่องขุด นั่นก็คือ นักขุดต้องทำการซื้อเครื่องขุด Bitcoin โดยเฉพาะ หรือที่เรียกกันว่า ASIC
2.ค่าไฟฟ้า ในการขุด Bitcoin จำเป็นต้องใช้พลังงานไฟฟ้าตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้นค่าไฟฟ้าจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึงสำหรับการขุด Bitcoin และ
3. โครงสร้างพื้นฐานของเครือข่าย ความเร็วของเครือข่ายไม่ได้สร้างความแตกต่างอย่างชัดเจนกับกระบวนการขุด Bitcoin
อย่างไรก็ตาม นักขุดต้องแน่ใจว่าอินเทอร์เน็ตของคุณมีการเชื่อมต่อที่เสถียรพร้อมรับการใช้งานของโปรแกรมขุด Bitcoin ตลอด 24 ชั่วโมง เพราะหากการเชื่อมต่อของอินเทอร์เน็ตถูกตัดไป กระบวนการขุดอาจมีแนวโน้มที่จะเกิดข้อผิดพลาดหลังจากอินเทอร์เน็ตกลับมาเชื่อมต่อได้อีกครั้ง