Facebook Meta เป็นการพัฒนาในการใช้โลกเสมือนจริงเพื่อการเล่น Facebook รูปแบบใหม่ ในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ชื่อของเฟซบุ๊ก เป็นชื่อที่ทุกคนรู้จักดี และจดจำกันได้ทั่วทั้งโลก จากผลผลิตความคิดริเริ่ม ในการสร้างโลกโซเชียลมีเดียของ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ที่เชื่อมต่อให้กับทุกคนในโลกได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น และการมาถึงของโลกโซเชียลมีเดียนี้ ได้เปลี่ยนโลกเดิมที่เราได้รู้จัก ให้กลายเป็นโลกใหม่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ตอนนี้ชื่อของ Facebook อาจจะเป็นเพียงแค่อดีตไปแล้ว เมื่อ มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ไม่ได้มองแค่ว่าโลกโซเชียลมีเดีย จะเพียงพออีกต่อไป เขาจึงตัดสินใจรีแบรนด์บริษัทใหม่ ลบชื่อ Facebook และเปลี่ยนใหม่เป็นชื่อ Meta พร้อมกับการแนะนำ Metaverse โลกเสมือนจริงแบบใหม่ ที่คุณไม่ต้องไปอยู่ในตรงนั้น แต่คุณทำทุกอย่างได้เสมือนจริง
เกิดอะไรขึ้นกับ Facebook
จากนี้ไป ชื่อของ Facebook จะกลายเป็นเพียงหนึ่งในแบรนด์ลูก ที่ไม่ใช่บริษัทแม่อีกต่อไป โดยที่มี Meta เป็นบริษัทแม่ พอ ๆ กับอินสตาแกรม Whatsapp ที่เป็นเพียงหนึ่งในแบรนด์ลูกของ Facebook และทาง Meta เตรียมที่จะเปิดขายหุ้นในชื่อ MVRS ในวันที่ 1 ธันวาคม
มาร์ค ซัคเกอร์เบิร์ก ยังบอกอีกว่า ตัวเขาเป็นคนที่ชอบเรียนนิยายคลาสสิกในโรงเรียน และชื่อเมตา ซึ่งเป็นภาษากรีกที่แปลว่า ล้ำหน้า (Beyond) ซึ่งสำหรับเขาแล้ว นี่คือสัญลักษณ์ที่สื่อว่า เรายังสามารถสร้างสรรค์อะไรได้อีกมาก ทั้งนี้การ รีแบรนด์ในครั้งนี้ คาดว่าเป็นส่วนหนึ่งที่จะ กู้ชื่อเสียงของ Facebook กลับมา หลังจากที่มีการเปิดโปงเรื่องที่ Facebook อนุญาตให้มีข่าวปลอมบนหน้า เพื่อเป็นการเรียกยอด ความผิดพลาดจากการควบคุมเนื้อหา และจากการเปิดเผยว่า ตัว Facebook นั้น ส่งผลเสียต่อสภาพจิตใจของผู้ใช้อย่างไรบ้าง
อะไรคือ Metaverse
Metaverse คือ สถานที่ที่โลกจริง ๆ และโลกดิจิทัลมาเจอกัน โดยคนที่ใช้นั้น จะสามารถสร้างสรรค์ตัวเองให้เป็น Avatars (อวตาร) ที่จะให้เหมือนตัวเราจริง ๆ หรือจะเป็นตัวละครแฟนตาซีอย่างไรก็ได้ ตัวอวตาร และสามารถสื่อสารพูดคุยได้ทุกอย่าง ทั้งทำงาน เล่น ประชุม ไปคอนเสิร์ต หรือแม้กระทั่งลองเสื้อผ้า โดยที่เราไม่ต้องไปยังสถานที่นั้นจริง ๆ
วิธีการเข้าถึง Metaverse
การเข้าถึง Metaverse ทำได้ 3 วิธีคือ
- การใช้แว่น Oculus เพื่อให้เข้าถึงโลกของ VR (Virual Reality) ซึ่งเราจะสามารถสร้างอวตารขึ้นมาแล้วไปอยู่ในโลกเสมือนจริงได้แบบเต็มตัว
- การใช้แว่น Ray-Ban หรือแว่นอื่น ๆ หรืออุปกรณ์ที่ได้บรรจุเทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ซึ่งจะทำให้คุณใช้งานได้ปานกลาง ลองนึกถึงการเล่นโปเกมอนโก ที่มีโปเกมอนมายืนอยู่ในสถานที่จริง ๆ
- การใช้งานผ่านอุปกรณ์ทั่วไป เช่น คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ จะทำให้เราได้สัมผัสโลกเสมือนจริงนี้ได้น้อยที่สุด
Facebook Meta ปลอดภัยแค่ไหน
อย่างไรก็ตาม การสร้าง Metaverse ก็ทำให้เกิดความกังวลในเรื่องความปลอดภัยอยู่พอสมควร จากเดิมที่เวลาเราเล่น Facebook โฆษณาที่ปรากฏในหน้า Facebook นั้น จะขึ้นอยู่ภูมิภาคที่อยู่ อายุ เพศ สิ่งที่คลิก ที่สนใจ รายได้ ฯลฯ แต่หากเป็นโลก Metaverse แล้ว ผู้ผลิตแพลตฟอร์มจะสามารถเข้าถึงชีวิตส่วนตัวของเราได้มากกว่านั้น ทั้งภาษากายในตอนนั้น ๆ การตอบโต้ทางสรีรวิทยา และรู้ว่าเรากำลังคุยอยู่กับใคร และคุยอย่างไร จนแทบไม่เหลือพื้นที่ความเป็นส่วนตัว แต่อย่างไรก็ตาม ทาง Facebook ได้ประกาศทุ่มเงินมากกว่า 50 ล้านดอลลาร์ เพื่อให้เกิดการพัฒนามั่นใจว่าโลก Metaverse นั้น มีความปลอดภัยมากเพียงพอ โดยเงินจำนวนนี้จะแจกจ่ายให้องค์กร และสถานศึกษาต่าง ๆ เช่น มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล และ Women in Immersive Tech เป็นต้น
งานแถลงข่าว Facebook ได้เผยวิดีโอที่เป็นวิสัยทัศน์สำคัญของ Metaverse เช่น การที่เราส่งภาพ โฮโลแกรมของเราไปร่วมคอนเสิร์ตกับเพื่อน การที่เรานั่งร่วมประชุมในโลกเสมือนจริง ร่วมกับพนักงานคนอื่น โดยที่ทุกคนทำงานที่บ้าน หรือการที่เราเล่นเกมแล้ว เอาตัวเข้าไปอยู่ในนั้นจริง ๆ โดยให้ชื่อว่า “Facebook Meta” ซึ่งทาง Facebook กล่าวว่า Facebook จะจ้างคนในยุโรปอีก 10,000 คน เพื่อทำแนวคิดโลกเสมือนจริงนี้ให้เป็นจริง นอกจากนี้ มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก ยังประกาศว่า การโทร. ผ่าน Facebook messenger จะทำได้แล้วในแบบ VR และวางแผนที่จะเปิดตลาดโลกเสมือนจริง ซึ่งเป็นที่ ที่นักพัฒนาสามารถขายของได้เสมือนจริง และทำหน้าโฮมสกรีนของแว่น Oculus Quest ใหม่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพูดคุย และเล่นเกมในโลกเสมือนจริงได้อย่างใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น