ทุกวันนี้ อินเทอร์เน็ต ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิตของผู้คนบนโลกใบนี้ นับเป็นเทคโนโลยีสำคัญที่มีการพัฒนาอยู่ตลอดเวลา แล้ว Web 3.0 ก็กำลังจะเข้ามาเป็นแนวโน้มการพัฒนาใหม่ของโลก อินเทอร์เน็ต ที่ไร้ตัวกลางคอยควบคุม ถ้าคุณอยู่ในแวดวงเทคโนโลยี คริปโต โซเชียลมีเดีย แล้ว คุณก็จะรู้สึกคุ้นหูกว่าใคร ๆ แล้วมันคืออะไร จะมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปแค่ไหน จะมีผลอะไรกับเราบ้าง
ก่อนจะมาเป็น Web 3.0
เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าใจลักษณะของเว็บในแต่ละรุ่น ว่ามีการใช้งานกันอย่างไร และมีการพัฒนาขึ้นไปในรูปแบบใดบ้าง ขอเรียงยุคของ อินเทอร์เน็ต ที่มีวิวัฒนาการจากที่ Tim Berners-Lee ผู้คิดค้น World Wide Web ได้ทำการแบ่งยุคไว้ดังนี้
Web 1.0
เริ่มในปี 2532 เป็นรุ่นแรกที่พาพวกเราท่องโลกของ อินเทอร์เน็ต www ทุกคนสามารถดูข้อมูลที่ได้รับจากเว็บเท่านั้น โดยผู้สร้างเนื้อหาหรือเจ้าของเว็บ จะเป็นผู้กำหนดเนื้อหาบนเว็บทั้งหมด ให้แก่ผู้ใช้งานหรือผู้บริโภค ถือเป็นการสื่อสารแบบทางเดียว หรือเรียกอีกอย่างว่า “Read-Only Web” ผู้ใช้สามารถทำได้แค่อ่านหรือ download ข้อมูลเท่านั้น ข้อด้อยก็คือไม่สามารถโต้ตอบสื่อสารกันได้
Web 2.0
ต่อมาในปี 2542 เริ่มเป็นการสื่อสารแบบสองทางที่สามารถอ่านและเขียนโต้ตอบกันได้ มุ่งเน้นไปที่ความสามารถของผู้คนในการร่วมมือและแบ่งปันข้อมูลออนไลน์ ยุคเว็บนี้เรียกว่า “Social Web” ผู้คนสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กันบน อินเทอร์เน็ต โดยผู้ใช้สามารถสร้างหรือ upload ข้อมูล โดยมี บริษัทขนาดใหญ่ทางด้านเทคโนโลยี เช่น Google, Facebook และ Amazon มาเป็นตัวกลางดูแลจัดการข้อมูล ขณะที่ข้อด้อยที่เป็นปัญหา ก็คือ เราสามารถไว้ใจตัวกลางได้แค่ไหน ปัญหาการขโมยข้อมูลผู้ใช้ไปขาย ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือทางอ้อม รวมไปถึงความโปร่งใส และความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ถ้าเป็นไปได้เราก็คงไม่อยากให้มีปัญหานี้
Web 3.0 จะเป็นอย่างไร
ในทางอุดมคติ Web 3.0 ของ Tim มีแนวคิดในการพัฒนาเว็บในอนาคต อินเทอร์เน็ต จะมีความอัจฉริยะมากขึ้น ทำงานได้เองแบบอัตโนมัติ สามารถทำการวิเคราะห์ จัดการ ข้อมูล ได้ใกล้เคียงมนุษย์มากขึ้น เป็นการลดงานและการตัดสินใจของมนุษย์ และปล่อยให้อุปกรณ์อ่านและตัดสินใจได้ เรียกอีกอย่างว่า “Semantic Web” โดยที่สามารถถ่ายโอนข้อมูลระหว่างระบบ คน และอุปกรณ์ ได้แบบอัตโนมัติ
ต่อมา ได้มีการต่อยอดของ Web 3.0 โดยมีแนวคิดเริ่มในปี 2557 ของ Gavin Wood ผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Web 3.0 Foundation และเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ว่าจะพัฒนา อินเทอร์เน็ต แห่งอนาคตที่เป็นของทุกคน โดยไม่มีกลุ่ม Big Tech ควบคุมอยู่เบื้องหลัง โดยหมายถึงรูปแบบอินเทอร์เน็ตในอนาคต ที่กระจายอำนาจและยุติธรรม การแลกเปลี่ยนข้อมูลและมูลค่าทางออนไลน์มีการกระจายอำนาจ จะไม่มี server ผู้ใช้ทุกคนสามารถควบคุมดูแลข้อมูล ตัวตน รวมถึงกำหนดทิศทางของชีวิตตัวเองได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่บริษัทใด ๆ ธุรกรรมดิจิทัลทั่วโลกจะมีความปลอดภัยอย่างแท้จริง
เว็บจะสามารถให้บริการโดยใช้เทคโนโลยีที่มีการขับเคลื่อนโดย AI ( Artificial Intelligence ) การเรียนรู้ของเครื่องและการเชื่อมต่อเครื่องผ่าน IoT ( Internet of Things ) และแอปพลิเคชันแบบ P2P ( Peer to Peer ) โดยเน้นการใช้นวัตกรรม มีการสร้างเนื้อหาที่มีความเป็นส่วนตัวมากขึ้นสำหรับผู้ใช้งานแต่ละราย และมีความปลอดภัยมากกว่าเดิม
Web 3.0 กับ Blockchain
จากที่มีแนวคิดในการพัฒนาว่า จะให้เป็นเว็บแบบกระจายศูนย์ ( Decentralized Web ) ที่ไม่มีตัวกลางในการเก็บข้อมูลและดำเนินการ ทำงานรวมกับการทำเทคโนโลยี AI มาร่วมใช้ในการยกระดับการใช้อินเทอร์เน็ต ให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากยิ่งขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ ในการ Decentralized Web ก็คือการที่ข้อมูลที่อยู่บนอินเทอร์เน็ตจะเป็นการทำงานอยู่บน server หลาย ๆ เครื่อง โดยที่แต่ละเครื่องจะให้ข้อมูลทำงานอยู่บน protocol แบบ Decentralized Structure มุ่งเน้นให้เป็นเทคโนโลยีที่มีขั้นตอนซ้อนกัน ( Technology Stack )
จึงมีความเป็นไปได้สูงที่จะมีการพัฒนาใช้เทคโนโลยี Blockchain เป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับ Web 3.0 และนับเป็นบทบาทสำคัญในการจัดเก็บข้อมูลยุคใหม่ โดยมีการทำงานร่วมกันของระบบอัตโนมัติ จาก smart contract และการจัดเก็บข้อมูลแบบ P2P
อย่างไรก็ตาม Web 3.0 ยังอยู่ในขั้นตอนการพัฒนายังต้องใช้เวลาในการปรับปรุงและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และบริบทอื่น ๆ เพื่อให้สามารถรองรับการเชื่อมต่อที่มีการรับส่งข้อมูลจำนวนมาก หรือแม้แต่การกำกับของรัฐ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต และหากจะดูในบริบทของมาตรฐานของ Web 3.0 ที่จะต้องไร้คนกลางนั้น คงยังต้องใช้เวลาอีกยาวไกล เพราะแม้แต่การเข้าอินเทอร์เน็ต เพื่อเริ่มใช้งาน เราก็ยังต้องผ่านผู้ให้บริการอยู่ดี
เพราะว่าการพัฒนาไม่เคยหยุดนิ่ง มีการเปลี่ยนแปลงในโลกใบนี้อยู่เสมอ Web 3.0 ยังต้องใช้เวลาและที่สำคัญเงินทุนในการพัฒนา การเปลี่ยนแปลงจึงมักจะค่อยเป็นค่อยไป แม้ตอนนี้ จะยังไม่เกิดขึ้นจริง วันหนึ่งในอนาคตเราจะได้เห็น Web 3.0 เปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปจากเดิม เหมือนที่ Web 1.0 และ Web 2.0 ได้เกิดขึ้นมาแล้ว