การคลังมอง สงครามยูเครนและรัสเซีย ทำเศรษฐกิจไทยชะลอตัว

การคลังมอง สงครามยูเครนและรัสเซีย ทำเศรษฐกิจไทยชลอตัว

หลังจากสงครามที่เกิดขึ้นระหว่าง ยูเครนและรัสเซีย รวมถึงการออกมาตรการคว่ำบาตรจากหลาย ๆ ประเทศส่งผลให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และในประเทศไทยก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน ราคาสินค้าทั้งอุปโภค บริโภค เริ่มทยอยปรับราคาขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นทำให้ทุกอย่างมีต้นทุนที่สูงขึ้น ราคาขายก็จะยิ่งแพงขึ้นไปอีก ซึ่งกระทรวงการคลังแห่งประเทศไทยนั้นก็ได้ให้ความเห็นเกี่ยวกับช่วงนี้ไว้ดังนี้ กระทรวงการคลัง มองว่าสงครามยูเครนและรัสเซีย ทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัว นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ได้ออกมาเผยว่า สถานการณ์การสู้รบระหว่างรัสเซียกับยูเครน จะส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ จากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้นในตอนนี้ การท่องเที่ยวก็ชะลอตัว แต่ยังคงเชื่อว่าเป็นผลกระทบในระยะสั้นเท่านั้น หากสถานการณ์ของสงครามนั้นจบได้เร็ว สำหรับผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยที่ต้องติดตามดูนั้นมีทั้งเรื่องการนำเข้าและส่งออกระหว่างไทยและรัสเซีย ราคาน้ำมันที่กำลังสูงขึ้นเรื่อย ๆ ก็เป็นสิ่งที่ต้องหาทางแก้ไขโดยเร็วเพื่อไม่ให้สินค้านั้นปรับตัวสูงขึ้นตามไป ในด้านการท่องเที่ยวจะชะลอตัวลงไปบ้างในช่วงนี้ เป็น 3 เรื่องหลักที่ต้องมีการติดตามเพื่อแก้ไขสถานการณ์อยู่เสมอ และหลังจากประชุมได้มีมติเห็นชอบมาตรการทางภาษีสรรพสามิตสำหรับการนำน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาไปผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตกระแสไฟฟ้า เพื่อช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยจัดเก็บภาษีสรรพสามิตอัตราศูนย์สำหรับน้ำมันดีเซลและน้ำมันเตาที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้านั้นยังไม่ปรับขึ้นตามราคาพลังงานที่สูงขึ้น โดยที่มาตรการภาษีดังกล่าวจะมีผลใช้บังคับถึงวันที่ 15 กันยายน 2565 รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเวลาที่สถานการณ์ราคาก๊าซธรรมชาติในตลาดโลกจะปรับตัวลง มีมติยกเว้นภาษีสำหรับการซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัล หลังจากที่ได้มีนโยบายเพื่อช่วยเหลือในส่วนของการอุปโภค บริโภคแล้ว ยังมีการประชุมเกี่ยวกับภาษีของการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ที่ได้มติในการยกเว้นการจัดเก็บ ภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการโอนเหรียญคริปโตเคอเรนซี หรือ โทเคนดิจิทัล […]

ปธ.อีซีบี มองว่าการคุมเข้มนโยบายเพื่อจัดการเงินเฟ้อ อาจทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจชะงัก

ปธ.อีซีบี มองการคุมเข้มนโยบายเพื่อจัดการเงินเฟ้อ

จากการประกาศเงินเฟ้อที่สูงสุดในรอบ 40 ปีที่ผ่านมา FED ได้มีแนวทางการออกนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยและลด QE เพื่อไม่ให้เงินเฟ้อนั้นสูงมากไปกว่านี้ และเริ่มลดลงมาอยู่ในระดับที่เป็นปกติ ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์หลายคนได้ทำการศึกษาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการ ประกาศนโยบายทางการเงินของ FED รวมถึง ประธานธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) ก็ได้มีมุมมองต่อนโยบายการเงินของ FED ดังนี้ ประธานธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) มีมุมมองต่อการแก้ปัญหาเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป ( อีซีบี ) ได้กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อนั้นจะลดลงเรื่อย ๆ ดังนั้นจึงไม่ควรคุมเข้มนโยบายทางการเงินใด ๆ  เพราะนั่นอาจจะทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจหยุดชะงักลงได้ “เมื่อคาดว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อจะลดลง จึงไม่สมเหตุผลที่จะจัดการด้วยการปรับนโยบายให้เข้มงวดขึ้น การคุมเข้มนโยบายจะไม่กระทบเศรษฐกิจจนกว่าผลกระทบผ่านพ้นไปแล้ว” นโยบายการเงินที่คุมเข้มในขณะนี้จะจำกัดรายได้ในภาคครัวเรือน ซึ่งกำลังเผชิญกับผลกระทบจากต้นทุนพลังงาน และ สินค้า อุปโภค บริโภค ต่าง ๆ ที่พุ่งสูงขึ้นมาก จนทำให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจลดลง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจ ภาวะเงินเฟ้อ มีผลต่อคริปโตเคอเรนซีอย่างไร ในภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นทำให้ค่าใช้จ่ายทั้งในภาคประชาชนและภาคบริษัทต่าง ๆ […]

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าขณะความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัว

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าขณะความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงฟื้นตัว

วิเคราะห์สถานะการเงินในช่วงที่ผ่านมา เงินดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นได้เริ่มอ่อนค่าลง จากภาวะสงครามและเศรษฐกิจที่ไม่ดีในช่วงนี้ ทำให้กระแสการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มกลับมาอีกครั้ง ทั้งตลาดหุ้นและคริปโตเคอเรนซี กลับมามีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่าเดิมได้ โดยที่ได้วิเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไว้ดังนี้ เมื่อดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังอ่อนตัวลง นักลงทุนเริ่มสนใจสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น จากมูลค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าในวันที่ผ่านมา มีการลดช่วงบวกที่ทำไว้เมื่อวันก่อนออกไปบ้าง นักลงทุนและนักวิเคราะห์ได้ประเมินมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย ทำให้มูลค่าสินค้าต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น และ FED อาจจะยังไม่สามารถกำหนดนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้ในเร็ว ๆ นี้ ดอลลาร์สหรัฐฯ อยู่ที่ 115.56 เยน ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 115.52 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.1267 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับ 1.1191 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 96.570 ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี ร่วงจากระดับ 97.104 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ส่วนรูเบิลแข็งค่า 1.67% มาที่ 83.04 ต่อดอลลาร์ หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 89.986 ต่อดอลลาร์เมื่อวันพฤหัสบดี ทางสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นมากเกินคาดในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ แม้แรงกดดันด้านราคาเพิ่มขึ้นก็ตาม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อรายปีแตะระดับสูงสุดในรอบ 40 […]

นักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองบิทคอยน์จะกลายเป็นหลักประกันดิจิทัลของโลก

นักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองบิทคอยน์จะกลายเป็นหลักประกันดิจิทัลของโลก

ในช่วงภาวะปัญหาต่าง ๆ ที่สะสมเข้ามาเรื่อย ๆ จนทำให้มูลค่าเหรียญคริปโตเคอเรนซีมากมายไม่ว่าจะเป็น บิทคอยน์ อิเธอเรียม ไบแนนซ์ หรือ เหรียญอื่น ๆ ก็มีมูลค่าที่ตกลงมาจาก All time high เดิมกว่า 30% – 50% แต่ก็มีบางเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่ยังแข็งแกร่งอยู่ในช่วงภาวะนี้เช่นกัน มุมมองนักวิเคราะห์จาก Bloomberg มองว่าบิทคอยน์จะกลายเป็นหลักประกันดิจิทัลของโลก Mike McGlone นักยุทธศาสตร์ด้านสินค้าโภคภัณฑ์ระดับอาวุโสของทาง Bloomberg ได้มีมุมมองต่อตราสารทุนว่า ในขณะนี้ได้อยู่ในช่วงที่เกินกว่าคาดการณ์ของการปรับฐานไปพอสมควร แต่สำหรับ บิทคอยน์ มีความแข็งแกร่งที่ต่างออกไป พร้อมทั้งมองว่า บิทคอยน์ พร้อมแล้วที่จะเป็นหลักประกันดิจิทัล หรือ สินทรัพย์คงมูลค่า ของโลก หลังจากที่ถูกกดดันจากภาวะเงินฝืดมานานในปี 2021 รวมถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้วมูลค่าของเหรียญ บิทคอยน์ ก็ยังคงรักษาระดับที่เหนือแนวรับสำคัญไว้ได้ Mike McGlone ได้ กล่าวว่า บิทคอยน์ $40,000 หรือ Nasdaq 14,000? ดูแล้วว่า […]

นักวิเคราะห์คาด อิเธอเรียมกำลังอยู่ในช่วงให้ผลตอบแทนมากกว่า บิทคอยน์

นักวิเคราะห์คาด อิเธอเรียมกำลังอยู่ในช่วงให้ผลตอบแทนมากกว่า บิทคอยน์

การคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่มองการลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซีว่า เหรียญไหนที่มีโอกาสที่จะสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนได้มากกว่า บิทคอยน์ โดยที่ดูจากความน่าจะเป็นต่าง ๆ ประกอบที่บ่งชี้มาได้ว่า อิเธอเรียม มีโอกาสลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนที่มากกว่า บิทคอยน์ ในช่วงเวลานี้ อิเรียม มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้ดีกว่าการลงทุนเหรียญ บิทคอยน์ ในช่วงระยะสั้นนี้นักลงทุนควรจับตาดูว่า เหรียญอิเธอเรียม ( ETH ) นั้นจะสามารถข้ามผ่านระดับแนวต้านสำคัญเมื่อเทียบกับ บิทคอยน์ ( BTC ) ไปได้หรือไม่ อ้างอิงตามคำพูดของนักวิเคราะห์การลงทุนคริปโตเคอเรนซี Justin Bennett ได้บอกกับผู้ติดตามบน YouTube ทั้ง 10,200 รายของเขาว่า เส้นแนวโน้มล่าสุดบ่งชี้ให้เห็นว่า อิเธอเรียม จะต้องยืนเหนือระดับ 0.073 BTC ( $3,193.68 ) ให้ได้ หากว่าต้องการมีผลตอบแทนที่แซงหน้า บิทคอยน์ ในอีกไม่กี่เดือน ในทางกลับกัน ถ้าหากว่า อิเธอเรียม นั้นปิดราคาที่ระดับต่ำกว่า 0.065555 BTC ( $2,867.97 ) มีแนวโน้มเป็นไปได้ว่าราคานั้นจะร่วงลงจนไปถึงระดับ 0.063 […]

บิทคอยน์ มูลค่าในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า เติบโตได้แค่ไหน

บิทคอยน์ มูลค่าในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า เติบโตได้แค่ไหน

หลังจากมูลค่าเหรียญ บิทคอยน์ ได้ตกต่ำลงจากสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเกิดจากการประกาศนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ และจากภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทำให้มูลค่าของสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหมดนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว จนปัจจุบันนี้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 ได้ลงไปจนถึงประมาณ 36,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งถ้าเทียบกับยอดเดิมที่เคยทำได้คือ ประมาณ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงเกือบ 50% จากยอดสูงสุด แต่ถ้าดูราคาเฉลี่ยแล้วจะยังถือว่าลดลงไม่มาก ถึงแม้จะอยู่ในภาวะแบบนี้ก็ตาม ในอนาคตอีก 5 ปี บิทคอยน์ จะสร้างมูลค่าได้แค่ไหน ในปัจจุบันนี้ บิทคอยน์ ที่พยายามทำตัวเป็น Store of Value ( สินทรัพย์ที่เก็บรักษามูลค่าได้ ) แต่กลับมีส่วนแบ่งการลงทุนจากทองคำอยู่เพียง 10% – 20% เท่านั้น ซึ่งเกิดจากนักลงทุนส่วนใหญ่แล้วจะยังเชื่อมั่นในทองคำมากกว่า แต่ บิทคอยน์ เองก็มีความสะดวกสบายหลาย ๆ เรื่องที่เข้ามาทดแทนทองคำได้อย่าง การเคลื่อนย้าย การเข้าซื้อลงทุน ก็ทำได้ง่ายกว่าทองคำมาก แต่แนวโน้มสัดส่วนที่ลงทุนกับ บิทคอยน์ นั้นเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ในอนาคตอีก […]

บริษัทชั้นนำในประเทศไทย เริ่มเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี

บริษัทชั้นนำในประเทศไทย เริ่มเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี

หลังจากที่กระแสของการลงทุนในเหรียญคริปโตเคอเรนซี นั้นร้อนแรงมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นในประเทศไทยและในต่างประเทศ ทำให้หลาย ๆ บริษัทชั้นนำของประเทศไทยนั้นเริ่มที่จะเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับ เงินสกุลดิจิทัล นี้กันมากขึ้นทั้งการร่วมลงทุนในบริษัทที่เปิดบริการ เทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซี และ ลงทุนเครื่องขุดเหรียญคริปโตเคอเรนซี เป็นรูปแบบการทำธุรกิจแนวใหม่ที่เริ่มเข้ามาสู่ประเทศไทยมากขึ้น แล้วบริษัทไหนบ้างที่เริ่มมีการลงทุนแนวนี้ บริษัทชั้นนำของไทย เริ่มเข้ามาลงทุนเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซี สินทรัพย์ดิจิทัล เป็นแนวการลงทุนใหม่ล่าสุดที่เริ่มเข้ามาในประเทศไทยมากขึ้น บริษัทชั้นนำของประเทศไทยก็เริ่มที่จะเข้ามาลงทุนกันมากขึ้น แต่ละบริษัทนั้นก็เป็น บริษัทที่จดทะเบียน ( บจ. ) ในตลาดหุ้นทั้งสิ้น ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกการลงทุนมากขึ้น หากว่าไม่อยากที่จะเข้าไปลงทุนเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซีเองก็เลือกลงทุนในบริษัทต่าง ๆ เหล่านี้เหมือนเป็นตัวแทนในการลงทุน โดยที่รายชื่อบริษัทนั้นจะมีดังนี้ บมจ.เจ มาร์ท ( JMART ) บริษัทที่ออกเหรียญ JFIN Coin สำหรับใช้ในระบบนิเวศ ( Ecosystem ) เพื่อแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการในเครือ บมจ.จัสมิน เทคโนโลยี โซลูชั่น ( JTS ) ลงทุนธุรกิจเหมืองขุดบิทคอยน์ และเริ่มก่อตั้งการลงทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลมากขึ้น บมจ.เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี ( AJA ) […]

FED แจงเหตุผลสนับสนุนให้รัฐบาลนั้นออกสกุลเงินดิจิทัล

FED แจงเหตุผลสนับสนุนให้รัฐบาลนั้นออกสกุลเงินดิจิทัล

หลังจากกระแสของเหรียญคริปโตเคอเรนซี มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ทางรัฐบาลต่าง ๆ นั้นเริ่มที่จะให้ความสนใจและศึกษาผลกระทบต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นเมื่อมีการใช้งานเหรียญคริปโตเคอเรนซีกันมากขึ้น และได้มีการมองแนวทางที่จะสร้าง CBDC ที่เป็นของรัฐบาลเองก็เช่นกัน หลังจากที่ประเทศจีนได้เริ่มต้นมาแล้ว ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกก็จะต้องมีการพัฒนาตามมาอย่างแน่นอน FED จึงได้มีการสนับสนุนรัฐบาลให้รีบสร้างเพื่อนำมาใช้ทดแทนเงินกระดาษให้เร็วที่สุด FED แจกเหตุผลที่สนับสนุนการสร้างสกุลเงินดิจิทัล นางลาเอล เบรนาร์ด ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) ได้ชี้แจงเหตุผลสำหรับบทบาทของสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ที่จะช่วยส่งเสริมเสถียรภาพทางการเงินให้มากขึ้น ขณะที่การใช้ Stablecoin และ สกุลเงินคริปโตเคอเรนซีขยายตัวมากขึ้น และประเทศอื่น ๆ ได้เริ่มออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง ( CBDC ) ของตนเอง ได้กล่าวไว้ว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่ผู้กำหนดนโยบาย ซึ่งรวมถึง FED จะต้องวางแผนเพื่ออนาคตของระบบการชำระเงิน และพิจารณาทางเลือกที่เป็นไปได้ทั้งหมดเพื่อนำประโยชน์ที่อาจจะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยีใหม่ ๆ พร้อมไปกับการป้องกันเสถียรภาพด้วย CBDC ของสหรัฐฯ อาจจะเป็นวิธีการที่เป็นไปได้ที่จะรับประกันได้ว่า ประชาชนทั่วโลกที่ใช้ดอลลาร์สหรัฐฯ นั้นจะสามารถพึ่งพาความแข็งแกร่งและความปลอดภัยของสกุลเงินของสหรัฐฯ เพื่อการทำธุรกรรม และทำธุรกิจในระบบการเงินดิจิทัลได้ต่อไป ผู้กำหนดนโยบายของ FED […]

ข้อมูล On-Chain ระบุชัดเริ่มมีนักลงทุนรายใหญ่เก็บเหรียญคริปโตมากขึ้น

ข้อมูล On-Chain ระบุชัดเริ่มมีนักลงทุนรายใหญ่เก็บเหรียญคริปโตมากขึ้น

ข้อมูล On-Chain ก็คือการประมวลผลข้อมูลจากการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นในระบบ Blockchain ไม่ว่าของระบบไหนก็ตามสามารถนำโปรแกรมดึงข้อมูลมาประมวลผลเป็นข้อมูล On-Chain แบบนี้ได้ และข้อมูลที่ได้รวบรวมมานี้เป็น On-Chain ของ บิทคอยน์ ที่ใช้ชี้วัดการซื้อขายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมมาเป็นสถิติต่าง ๆ ที่นำมาบอกแนวโน้มของตลาดได้หลังจากช่วงที่มีสงครามระหว่าง รัสเซียและยูเครน นี้ ข้อมูล On-Chain บ่งบอกมีรายใหญ่เริ่มเข้ามาซื้อเหรียญคริปโต มากขึ้นในเดือน กุมภาพันธ์ 2022 หลังจากเกิดสงครามระหว่าง รัสเซียและยูเครน เกิดขึ้นทำให้มูลค่าของเหรียญคริปโตเคอเรนซีนั้นลดลงอย่างมากในเวลานี้ นักลงทุนมากมายนั้นเริ่มไม่เชื่อมั่นในสินทรัพย์เสี่ยง หันไปลงทุนกับทองคำแทน ทำให้มูลค่าทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน หลังจากที่กระแสต่าง ๆ เริ่มสงบ นักวิเคราะห์ได้นำข้อมูลจากระบบ On-Chain มาประมวลผลปรากฏว่า หลังจากที่เหรียญ บิทคอยน์ ได้ลดลงต่ำจนถึง 35,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เริ่มมีการเข้ามาช้อนซื้อของนักลงทุนรายใหญ่อย่างมากมาย  อ้างอิงข้อมูลจากแพลตฟอร์มที่ใช้วิเคราะห์พฤติกรรม Santiment ด้วยเหตุนี้ จำนวนธุรกรรมที่เกิดขึ้นบนแพลตฟอร์มที่สูงกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นการซื้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในหนึ่งเดือน ที่น่าสนใจคือ การทำธุรกรรมของ บิทคอยน์ ล่าสุดถึงระดับสูงสุดในวันที่ […]

FED เผยต้องดูข้อมูลเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจว่าต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.5% ในเดือนหน้าหรือไม่

FED เผยต้องดูข้อมูลเศรษฐกิจก่อนตัดสินใจว่าต้องขึ้นดอกเบี้ย 0.5%

เป็นสิ่งที่กำลังทำให้นักลงทุนนั้นกังวลมากขึ้นหลังจากเหตุการณ์ รัสเซียพยายามรุกรานยูเครน ที่ส่งผลต่อภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก และการขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะมีประกาศออกมายิ่งทำให้การลงทุนในตลาดสินทรัพย์ต่าง ๆ นั้นมีโอกาสที่จะตกต่ำลงไปกว่าเดิมอีกครั้ง จึงทำให้ต้องมีการประเมินภาพรวมเศรษฐกิจก่อนที่จะมีการประกาศนโยบายใด ๆ ออกมา แล้วแนวทางการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยของ FED นั้นจะมีทิศทางเป็นอย่างไร FED ต้องดูภาพรวมเศรษฐกิจก่อนที่ตัดสินใจในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย นางมิเชลล์ โบว์แมน ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ ( FED ) กล่าวว่า จะมีประเมินข้อมูลเศรษฐกิจที่กำลังจะออกมาในช่วง 3 สัปดาห์ข้างหน้าสำหรับการตัดสินใจว่า จำเป็นที่จะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมครั้งต่อไปในเดือนหน้าหรือไม่ ซึ่งเป็นท่าทีที่ตอกย้ำความเห็นต่างของบรรดาผู้กำหนดนโยบายเกี่ยวกับว่า FED จะเริ่มวัฏจักรการคุมเข้มนโยบายแบบเชิงรุกมากเพียงใด “เป็นเรื่องสำคัญมากที่เราจะต้องจับตาดูต่อไปว่า เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร และทำความเข้าใจว่า สถานการณ์ต่าง ๆ ว่ามีแนวโน้มที่ดีขึ้นหรือแย่ลงขณะที่เราใกล้ที่จะตัดสินใจเรื่องนี้” ก่อนการประชุมครั้งต่อไป จะมีการเปิดเผยรายงานเงินเฟ้ออีกฉบับ และรายงานการจ้างงานประจำเดือนที่ FED จะพิจารณา ขณะที่ผู้กำหนดนโยบายจะจับตาสถานการณ์ตึงเครียดเนื่องจากหวั่นเกรงว่ารัสเซียจะบุกยูเครนประกอบด้วย นักลงทุนระดับโลกต่างมองว่ามีความเป็นไปได้ 83% ที่จะมีการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% หรืออาจจะเลื่อนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมในวันที่ 15 – 16 มีนาคม 2022 สวนทางกับเจ้าหน้าที่ของ FED […]