Michael Saylor เชื่อมั่นว่า บิทคอยน์ มีโอกาสเติบโตกว่า 100 เท่า
ในช่วงที่มูลค่าของเหรียญ บิทคอยน์ กำลังตกต่ำลงอย่างมากในช่วงนี้ ท่ามกลางกระแสข่าวและนโยบายทางการเงินต่าง ๆ ที่มีผลให้มูลค่าของเหรียญนั้นลดลง ทำให้นักลงทุนนั้นเริ่มขาดความเชื่อมั่นใน บิทคอยน์ และเหรียญคริปโตเคอเรนซี กันแล้ว แต่สำหรับนักลงทุนรายใหญ่และบริษัทอันดับต้น ๆ ของโลกอย่าง MicroStrategy ก็ยังแสดงความเชื่อมั่นในอนาคตของ บิทคอยน์ ว่ายังมีโอกาสที่จะเติบโตมากขึ้นอย่างแน่นอน CEO บริษัททางการเงินระดับโลกเชื่อมั่น บิทคอยน์ มีโอกาสเติบโตมากกว่า 100 เท่า Michael Saylor CEO ของ MicroStrategy บริษัทที่ทำธุรกิจด้านซอฟท์แวร์เกี่ยวกับ AI และด้าน Data สำหรับวิเคราะห์ธุรกิจ เป็นที่ปรึกษาการดำเนินการธุรกิจให้กับบริษัทชั้นนำของโลกมากมาย และเป็นบริษัทหนึ่งที่ลงทุนในเหรียญ บิทคอยน์ มาอย่างยาวนานทำรายได้มหาศาลจากการลงทุน ได้มีมุมมองต่ออนาคตของเหรียญ บิทคอยน์ และ คริปโตเคอเรนซี อื่น ๆ ไว้ดังนี้ Michael Saylor ยังมั่นใจว่าราคาของ บิทคอยน์ นั้นยังอยู่ในเทรนด์ขาขึ้น สำหรับความผันผวนในระยะสั้นนั้นเป็นเรื่องธรรมดาของตลาดคริปโตเคอเรนซี ที่จะอ่อนไหวต่อข่าวต่าง ๆ มากเป็นพิเศษ ความผันผวนของมูลค่าเหรียญ บิทคอยน์ […]
ภาพรวมในการลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซี จากวิกฤติรุกรานยูเครน
หลังจากภาวะความตรึงเครียดที่เกิดจากรัสเซียพยายามที่จะรุกรานยูเครน ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกทันที สินค้าต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องผ่านทางเส้นทางทะเลดำในพื้นที่ใกล้เขตเฝ้าระวัง และ สินค้าส่งออกจากประเภทในโซนของรัสเซีย ยูเครน และประเทศใกล้เคียงขาดแคลนทันที ทำให้สินค้านั้นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก สำหรับในส่วนของการลงทุนสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง เหรียญคริปโตเคอเรนซี และ หุ้น ตกต่ำลงทันทีเช่นกันเป็นปัญหาหลักที่เกิดขึ้นในเวลานี้สำหรับนักลงทุน ภาพรวมของตลาดการลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซี จากวิกฤติรุกรานยูเครน เมื่อมีสัญญาณของความตรึงเครียดที่เกิดขึ้นระหว่าง รัสเซียและยูเครน ขึ้นมาทำให้นักลงทุนในตลาดของสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง ตลาดหุ้น และตลาดคริปโตเคอเรนซี นั้นเริ่มมีการเทขายกันอย่างหนักหน่วง นักลงทุนขาดความเชื่อมั่นต่อการลงทุน จึงเทขายสินทรัพย์เสี่ยงเพื่อไปถือครองสินทรัพย์ที่ยังคงมูลค่าได้อย่าง ทองคำ จึงได้เห็นขาขึ้นของทองคำที่ขึ้นไปทำมูลค่าได้สูงเกือบ 1,900 ดอลลร่าห์สหรัฐฯ ตลาดคริปโตเคอเรนซีมูลค่าลดลงทันทีโดยที่แต่ละเหรียญนั้นก็จะมีมูลค่าลดลงดังนี้ บิทคอยน์ ลดลง 6.56% เหลือเพียงราว ๆ 36,000 ดอลล่าร์สหรัฐฯ อิเธอเรียม ลดลง 6.92% เหลือเพียงประมาณ 2,500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ Binance ลดลง 10.06% เหลือเพียงประมาณ 350 ดอลล่าร์สหรัฐฯ XRP ลดลง 14.5% เหลือเพียงประมาณ 0.7 ดอลล่าร์สหรัฐฯ […]
ค่าเงินเฟ้อสหรัฐสูงที่สุดในรอบ 40 ปี เป็นสัญญาณดีต่อ บิทคอยน์ หรือไม่
หลังจากที่สหรัฐฯ เพิ่งรายงานออกมาว่าดัชนีราคาผู้บริโภค ( CPI ) ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค ได้สรุปค่าเงินเฟ้อออกมา ปรากฏว่ามีแนวโน้มที่จะเฟ้อสูงมากกว่า 7% ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี เป็นการยอมรับของ ธนาคารกลางสหรัฐฯ หลังจากที่ได้ปฏิเสธว่ามีเงินเฟ้อสูงเกินกว่าที่กำหนดไว้ แล้วเงินเฟ้อสูงขึ้นแบบนี้จะส่งผลอย่างไรต่อ บิทคอยน์ และ เหรียญคริปโตเคอเรนซี ยิ่งค่าเงินเฟ้อสูงมากขึ้น บิทคอยน์ จะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นด้วยเช่นกัน เมื่อมูลค่าของเงินกระดาษนั้นนับวันจะด้อยค่าลงไปเรื่อย ๆ ประชาชนและนักลงทุนจะต้องมองหาสิ่งที่เข้าทดแทนในมูลค่าของเงินที่กำลังลดลง ซึ่งก็คือสินทรัพย์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ หุ้น หรือแม้แต่ คริปโตเคอเรนซี ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่นักลงทุนนั้นกำลังวิเคราะห์กันว่าอะไรที่จะสามารถนำมาชดเชยมูลค่าเงินที่ลดลงได้บ้าง และนักลงทุนส่วนหนึ่งก็จะมองว่า บิทคอยน์ นั้นเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่สามารถนำมาใช้ต้านเงินเฟ้อได้ สามารถเป็น Store Of Value ได้ นักลงทุนเริ่มเข้ามาลงทุนเพื่อกระจายความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้น จึงทำให้มีกระแสเงินนั้นเข้ามาสู่ตลาดคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น แต่ก็อาจจะเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่นักลงทุนเลือกมาเท่านั้นแต่ก็เพียงพอที่จะผลักดันให้มูลค่าของ บิทคอยน์ และ เหรียญคริปโตเคอเรนซี นั้นมีมูลค่ามากขึ้นกว่าเดิมได้อย่างแน่นอน นโยบายทางการเงิน มีผลต่อมูลค่าสินทรัพย์เสี่ยงอย่าง บิทคอยน์ เช่นกัน เมื่อมีการยอมรับจาก ธนาคารกลางสหรัฐฯ ( […]
บิทคอยน์ ยังสามารถกลับมาจุดสูงสุดเดิมได้หรือไม่
ในช่วงที่มูลค่าของเหรียญ บิทคอยน์ และเหรียญคริปโตเคอเรนซี มากมายในตลาดกำลังเป็นช่วงขาลง ทำให้นักลงทุนส่วนมากนั้นเริ่มกังวลถึงอนาคตของเหรียญ บิทคอยน์ และเหรียญคริปโตเคอเรนซี อื่น ๆ กันแล้วว่าจะเป็นอย่างไรบ้างในอนาคต มีแนวโน้มที่จะกลับมาเท่ากับจุดสูงสุดที่เคยขึ้นไปได้หรือไม่ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อ บิทคอยน์ ในช่วงที่ผ่านมา ในการลดลงของมูลค่าเหรียญ บิทคอยน์ ในตอนนี้และในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้ ความกดดันที่เกิดจากสงครามที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่าง ยูเครนและรัสเซีย ปัจจัยหลักที่ทำให้มูลค่าของเหรียญ บิทคอยน์ นั้นลดลงมาอย่างมากในช่วงเวลานี้สาเหตุหลักก็คือ ความตึงเครียดระหว่างยูเครนและรัสเซีย ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงเวลานี้ ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงนั้นเกิดภาวะขาลงกันถ้วนหน้า และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเหรียญ บิทคอยน์ เช่นเดียวกันที่มูลค่าลดลงตามตลาดหุ้น นักลงทุนเริ่มเทขายกันมากมายเพราะกลัวปัญหาจากสงครามที่อาจจะเกิดขึ้น รัฐบาลจีนสั่งห้ามขุดเหมือง บิทคอยน์ อีกปัจจัยที่ทำให้เกิดการลดลงของมูลค่าเหรียญ บิทคอยน์ อย่างมากในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การโดนแบนจากรัฐบาลในประเทศต่าง ๆ หลังจากที่มีประกาศออกมาทำให้เกิดการวิตกกังวลของนักลงทุนทันที และยิ่งมีการเทขายออกมามากขึ้น จึงเกิดความกลัวกันมากขึ้นยิ่งทำให้มูลค่าลดลงไปอีก ซึ่งก็เป็นเรื่องปกติที่สร้างความไม่มั่นใจให้นักลงทุนมากขึ้น การประกาศนโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ เมื่อมีการประกาศนโยบายที่ออกมาแต่ละครั้ง ทั้งการลด QE และการทยอยเพิ่มอัตราดอกเบี้ย เพื่อแก้ปัญหาเงินเฟ้อในระบบมากเกินไป ทำให้เงินหมุนเวียนลดน้อยลง นักลงทุนเลือกที่จะเข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ที่ปลอดภัยมากกว่าจึงทำให้มูลค่าของเหรียญ บิทคอยน์ นั้นลดต่ำลง โอกาสที่จะกลับยังจุดสูงสุดของ บิทคอยน์ สำหรับโอกาสในการกลับตัวของ […]
Fan Tokens เหรียญคริปโตสำหรับแฟนพันธุ์แท้ น่าลงทุนแค่ไหน
Fan Tokens คือ เหรียญคริปโตเคอเรนซีที่เป็นการ สร้างขึ้นมาเพื่อให้แฟนพันธุ์แท้ได้ร่วมซื้อเพื่อใช้ในการทำกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นให้ โดยที่เริ่มมีการสร้าง Fan Tokens ขึ้นมาแล้วส่วนใหญ่จะเป็นในด้านของกีฬาทั้ง ฟุตบอล อเมริกันฟุตบอล ที่จะสร้างเหรียญประจำสโมสรกีฬาออกมาให้แฟนคลับนั้นร่วมถือครอง แล้วนำไปใช้กับกิจกรรมที่สโมสรกีฬาต่าง ๆ นั้นได้เตรียมไว้ให้แฟนคลับ Fan Tokens ที่มีการใช้งานกับสโมสรกีฬาระดับโลก ในช่วงเร็ว ๆ นี้ถ้าได้ติดตามกระดานเทรดเหรียญคริปโตเคอเรนซีอย่าง Binance จะเห็นว่ามีการทำกิจกรรมที่จะนำเข้าเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่เป็น Fan Tokens เข้ามามากมาย ทั้งสโมสรดังระดับโลกอย่าง Juventus, PSG, Santos และ Barcelona เป็นสโมสรฟุตบอลระดับโลกทั้งนั้น ที่ได้มีแนวคิดที่อยากจะสร้างเหรียญคริปโตเคอเรนซีเพื่อให้นักลงทุนที่เป็นแฟนคลับของสโมสรได้เข้ามาลงทุนร่วมกัน ส่วนหนึ่งของค่าธรรมเนียมที่เกิดขึ้นจะเข้าไปช่วยเหลือสโมสรและยังมีกิจกรรมมากมายที่มีเฉพาะผู้ที่ถือครองเหรียญ Fan Tokens ของสโมสรเท่านั้นถึงจะได้รับไป ถ้าหากมองดูแล้วก็จะเหมือนกับนักลงทุนที่ถือครองเหรียญ Fan Tokens ของสโมสรกีฬานั้นก็เป็นเหมือนผู้ถือหุ้นเช่นกัน ที่มีส่วนช่วยให้การเงินของสโมสรนั้นดีมากขึ้น และได้รับทั้งผลตอบแทนการลงทุน พร้อมกับสิทธิพิเศษที่มากมายอีกด้วย วิธีการหาเหรียญ Fan Tokens สำหรับนักลงทุนที่ต้องการจะซื้อเหรียญคริปโตเคอเรนซีอย่าง Fan Tokens แล้วไม่ได้เป็นแฟนคลับสโมสรกีฬาใด ๆ […]
บิทคอยน์ มีโอกาสที่จะเติบโตคล้ายกับ Apple ได้ในอนาคต
บิทคอยน์ มีโอกาสที่จะเติบโตคล้ายกับ Apple ได้ในอนาคต เป็นมุมมองของผู้บริหาร Fidelity บริษัทการเงินการลงทุนในระดับโลกของประเทศสหรัฐอเมริกา ที่มองว่าอนาคตของ บิทคอยน์ นั้นยังมีอยู่แม้ว่าช่วงนี้ราคาจะลดลงมาก็ตาม Jurrien Timmer ได้มองว่า บิทคอยน์ มีโอกาสเติบโตคล้ายกับ Apple Jurrien Timmer ผู้อำนวยการฝ่าย Global Macro ของ Fidelity บริษัททางการเงินระดับโลก ได้กล่าวว่า กระเป๋าเงิน บิทคอยน์ ที่มีการใช้งานอยู่บนเครือข่ายยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตอนนี้มูลค่าของเหรียญจะมีการปรับฐานราคาลดลง แต่ความเชื่อมั่นของนักลงทุนนั้นไม่ได้ลดลงตามมากนัก และ Timmer ยังได้กล่าวยกย่อง Apple ว่ามีการเติบโตที่ดีอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา 3 ทศวรรษ เป็นตัวอย่างของบริษัทเทคโนโลยีที่มีการเติบโตสูงมาก จากเมื่อปี 1996 เติบโตมากว่า 1457 เท่า จนถึงปัจจุบัน ในขณะที่อัตราส่วนต่อยอดการขายต่อหุ้นของบริษัท เพิ่มขึ้นกว่า 30 เท่า ดังนั้นหากการเติบโตในการประเมินมูลค่าต่อยอดขายที่เป็นตัวเลขยกกำลัง ( ตามกฎของ Metcalfe ) ราคาหุ้นของ Apple […]
Morgan Stanley จะเปิดให้นักลงทุนเลือกลงทุนใน บิทคอยน์ ได้
Morgan Stanley ( มอร์แกน สแตนลีย์ ) บริษัทให้บริการทางการเงินระดับโลก มีที่ตั้งอยู่ที่มหานครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันนี้มีสาขาทั่วโลก 42 ประเทศ เป็นผู้ให้บริการทางการเงินรายใหญ่ของโลกที่เปิดบริการสำหรับนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในสินทรัพยต่าง ๆ ทั่วโลก และในช่วงนี้ก็มีข่าวมาเกี่ยวกับการตั้งใจที่จะเปิดกองทุนที่ลงทุนในเหรียญ บิทคอยน์ ที่จะส่งผลต่อเหรียญคริปโตเคอเรนซีอย่างไรบ้าง การเปิดให้ลงทุนบิทคอยน์ ของกองทุนระดับโลกนั้นส่งผลต่อคริปโตเคอเรนซีอย่างมาก การเปิดกองทุนสำหรับลงทุน บิทคอยน์ นั้นเป็นสิ่งที่นักลงทุนทั่วโลกต่างรอคอยกัน เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อมั่นในการลงทุนตามกระดานเทรดคริปโตเคอเรนซีต่าง ๆ นักลงทุนที่อยากจะให้มีบริษัทการเงินระดับโลกเป็นตัวกลางในการเข้ามาลงทุนนั้นมีอย่างมากมาย เพราะมีผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยดูแลการลงให้ได้ตลอดเวลา ที่สามารถการันตีผลตอบแทนได้มากกว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์อื่น ๆ และถ้าหากว่ามีการเปิดให้ลงทุนคริปโตเคอเรนซีผ่านกองทุนระดับโลกจริงจะส่งผลต่อตลาดคริปโตเคอเรนซีอย่างไร มีเงินหมุนเวียนเข้าสู่ตลาดลงทุนในคริปโตเคอเรนซีอย่างมากมายมหาศาล ยังมีนักลงทุนอีกมากมายที่มีทุนทรัพย์พร้อม แต่ยังไม่กล้าที่จะลงทุน เพราะการลงทุนในเหรียญบิทคอยน์ และ เหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ นั้นมีความผันผวนสูง มีความเสี่ยงที่มากเกินไปที่จะลงทุนด้วยตัวเองได้ จึงต้องการที่จะมีกองทุนที่เข้ามาทำหน้าที่เหล่านี้แทน เหมือนกับการลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ที่มีผลตอบแทนให้ระหว่างปี เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับการลงทุนในเหรียญบิทคอยน์ มากขึ้น ยิ่งมีบริษัทระดับโลกเข้ามาร่วมลงทุนมาก ยิ่งมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ทำให้นักลงทุนนั้นเริ่มให้ความสำคัญกับการลงทุนเหรียญคริปโตเคอเรนซีมากขึ้น Morgan Stanley จะเปิดให้ลงทุน บิทคอยน์ แบบไหนบ้าง ในข่าวที่มีการนำเสนออกมาเกี่ยวกับ Morgan […]
สิ่งที่จะเข้ามาขัดขวางการเติบโตของ บิทคอยน์ และ อิเธอเรียม ในปี 2022
เหรียญคริปโตเคอเรนซีอย่าง บิทคอยน์ และ อิเธอเรียม ที่เป็นเหรียญหลักของโลกนั้นมีมูลค่าเหรียญที่เติบโตขึ้นมาอย่างมากในช่วงปีที่ผ่านมา มีหลายเหตุการณ์เช่นกันที่ทำให้เหรียญนั้นมีมูลค่าสูงขึ้น จนทำ All time high ได้ และก็มีช่วงที่มูลค่าเหรียญนั้นตกต่ำลงมากกว่า 50% เช่นเดียวกัน แล้วสำหรับปี 2022 นี้สิ่งใดบ้างที่จะเข้ามาเป็นปัจจัยที่ทำให้สองเหรียญคริปโตเคอเรนซีนี้เติบโตได้ช้าลงไป บิทคอยน์ และ อิเธอเรียม ถูกเข้ามาควบคุมโดยรัฐบาล สิ่งที่เป็นคริปโตเคอเรนซีได้ ก็คือการที่ไม่มีการควบคุมได้ เป็นการกระจายศูนย์กลางที่เป็นส่วนสำคัญทำให้เกิดมูลค่าขึ้นมามากมาย แต่ปัจจุบันนี้เมื่อกระแสของเหรียญคริปโตเคอเรนซีนั้นมีมากขึ้น จนเริ่มมีผลกระทบต่อการเงินในประเทศต่าง ๆ และนักลงทุนเริ่มหันไปให้ความสำคัญกับตลาดคริปโตเคอเรนซีกันมากขึ้น รัฐบาลจึงต้องการที่จะเข้ามากำกับดูแลหรือบางประเทศนั้นได้ห้ามประชาชนภายในประเทศใช้งานเหรียญคริปโตเคอเรนซีเลยทีเดียว เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มูลค่าเหรียญลดลงอย่างมาก เมื่อมีการออกประกาศห้ามหรือควบคุมเหรียญคริปโตเคอเรนซีขึ้นมา ความปลอดภัยในการครอบครอง บิทคอยน์ และ อิเธอเรียม อีกหนึ่งปัจจัยที่ส่งผลอย่างมากของวงการเหรียญคริปโตเคอเรนซีในตอนนี้ก็คือ การถูกโจมตีต่าง ๆ จากผู้ไม่หวังดี ทั้งการหลอกลวง โจรกรรม หรือ การขโมยเหรียญคริปโตเคอเรนซีจากนักลงทุน เป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งในปัจจุบันนี้ เมื่อความปลอดภัยในการใช้งานนั้นลดลง ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและประชาชนที่ต้องการใช้งานก็เริ่มมีลดลงเรื่อย ๆ เป็นสาเหตุที่ทำให้มูลค่าเหรียญนั้นมีโอกาสเติบโตได้ช้าเช่นเดียวกัน สำหรับปัญหาต่าง ๆ ที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นได้นั้น ทำให้เหรียญคริปโตเคอเรนซีอย่าง บิทคอยน์ และ อิเธอเรียม […]
สกุลเงินดิจิทัล คือสินทรัพย์แห่งอนาคตหรือหายนะในการลงทุนกันแน่
สินทรัพย์ใด ๆ ก็ตาม ที่มีมูลค่าขึ้นมาได้นั้นก็เพราะมีคนส่วนมากให้คุณค่าแก่สินทรัพย์นั้น เหมือนกับเงินกระดาษที่ใช้งานกันอยู่หากว่าไม่มีการสนับสนุนจากรัฐบาลจนประชาชนมีความมั่นใจแล้ว ก็คือกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้นเอง ทองคำก็เช่นกันที่มีคนส่วนใหญ่นั้นยังคงให้คุณค่าอยู่เสมอไม่ว่าจะยุคไหน สมัยไหนก็ตาม และเมื่อกล่าวถึงสกุลเงินดิจิทัลนั้นก็มีลักษณะเดียวกัน ที่มีมูลค่าในตอนนี้เพราะมีคนส่วนมากให้คุณค่าแก่เหรียญคริปโตเคอเรนซีต่าง ๆ แล้วการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนั้นจะเป็นปัญหาหรือส่วนช่วยสำคัญทางการเงินในอนาคต สกุลเงินดิจิทัล สินทรัพย์แห่งอนาคตที่มีทั้งโอกาสและวิกฤติในตัวเอง สกุลเงินดิจิทัล หรือก็คือ เหล่าเหรียญคริปโตเคอเรนซี ที่มีอยู่มากมายในตลาดที่เปิดให้นักลงทุนนั้นเข้าไปลงทุนกันในเวลานี้เป็นทั้งโอกาสในการลงทุนรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงง่าย มีข่าวสารมากมายให้ติดตามและยังมีกราฟที่ช่วยวิเคราะห์แนวโน้มของเหรียญได้เช่นกัน เหมาะแก่การเข้ามาลงทุนเช่นเดียวกันสินทรัพย์อื่น ๆ เช่นกัน แต่สำหรับสกุลเงินดิจิทัลนั้นขึ้นชื่อในเรื่องของความผันผวนอย่างมาก จึงบางครั้งทำให้เกิดวิกฤติในการลงทุนได้หากลงทุนในจังหวะที่ไม่ถูกต้อง ที่ได้เห็นในหลาย ๆ ครั้งก็คือการที่มูลค่าของเหรียญนั้นตกลงมามากกว่า 50% ในเวลาเพียงไม่กี่วันเท่านั้น จึงทำให้ประชาชนทั่วไปนั้นก็ยังไม่มั่นใจว่า สกุลเงินดิจิทัลนี้จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตอย่างไรได้บ้าง ในเมื่อแต่ละวันนั้นก็มีความผันผวนที่สูงมากเกินไป สิ่งที่จะเข้ามาทดแทนการเสียมูลค่าของสกุลเงินได้ก็คือ สกุลเงินดิจิทัล ถึงแม้ สกุลเงินดิจิทัล นั้นจะมีความผันผวนต่อการลงทุนที่สูงมากในเวลานี้ แต่นักวิเคราะห์และนักลงทุนรายใหญ่หลายคนกลับเลือกที่จะให้ความสำคัญ และพยายามที่จะครอบครองเหรียญคริปโตเคอเรนซีมากมายไม่ว่าจะเป็น บิทคอยน์ อิเธอเรียม หรือแม้แต่เหรียญคริปโตเคอเรนซีอื่น ๆ ก็ได้มีการร่วมลงทุนอย่างมากมาย เพราะว่าถ้ามองกันในระยะยาวแล้วมูลค่าของเหรียญคริปโตเคอเรนซีนั้นมีแต่เติบโตขึ้น จากปีที่กำหนดของบิทคอยน์จนปัจจุบันนี้มีมูลค่ามากขึ้นมหาศาล และเมื่อในอนาคตหากสกุลเงินต่างประเทศซักประเทศเริ่มมีวิกฤติทางการเงิน ที่มูลค่าของเงินนั้นลดลงอย่างรวดเร็ว สิ่งที่จะช่วยได้ทันทีเลยก็คือสกุลเงินดิจิทัล เพราะไม่มีการถูกควบคุมใด ๆ ทำให้ตัวเหรียญนั้นยังคงมีมูลค่าอยู่เสมอ แต่ก็ต้องเลือกเหรียญคริปโตเคอเรนซีให้ถูกต้องด้วยเช่นกัน แล้วทำไมประเทศต่าง ๆ […]
นักวิเคราะห์คาดการณ์ บิทคอยน์ กำลังเติบโตหลังดอกเบี้ยเพิ่มสูงขึ้น
แนวโน้มของเหรียญคริปโตเคอเรนซีจะเป็นอย่างไรต่อไปในอนาคตเมื่อมีการประกาศการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางสหรัฐฯ บิทคอยน์ จะกลับมาได้หรือไม่ในเร็ว ๆ นี้ นักวิเคราะห์จากฟันด์สแตรท มองแนวโน้มบิทคอยน์จะกลับมาได้ นายทอม ลี นักวิเคราะห์จากบริษัทฟันด์สแตรท ได้มองทิศทางอนาคตของ บิทคอนย์ ไปในเชิงบวก หลังจากที่มีการประกาศการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางแห่งชาติสหรัฐฯ ที่เมื่อมีการประกาศออกมา หุ้นในกลุ่มของเทคโนโลยี และ มูลค่าเหรียญคริปโตเคอเรนซี ได้ปรับตัวลดลงทันที และยิ่งมีประกาศเกี่ยวกับแนวทางการปรับอัตราดอกเบี้ยที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในปี 2022 จึงทำให้นักลงทุนนั้นเริ่มกังวลและเริ่มเทขายกันมากขึ้นในช่วงนี้ แต่นักลงทุนท่านนี้นั้นมองไว้ว่า “อัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มว่าจะพุ่งกลับไปแตะระดับเดียวกับเมื่อ 30 ปีก่อน” นายลีได้กล่าวในรายการ Crypto World ของสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี “ก็คือในช่วง 10 ปีต่อจากนี้ไปนักลงทุนที่ลงทุนอาจขาดทุนจากการถือครองพันธบัตรรัฐบาลเป็นเงินเกือบ 60 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนั้นคำถามก็คือเงินทุน 60 ล้านล้านดอลลาร์ในส่วนนี้จะไหลไปสู่ที่ใดเพื่อที่จะทำกำไรกลับคืนมา การคาดการณ์เบื้องต้นก็คืออาจเป็นการลงทุนในหุ้นบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ แต่ที่ผมคิดว่าอาจเป็นไปได้มากกว่าก็คือ เม็ดเงินเก็งกำไรหุ้นจะไหลออกจากพันธบัตรรัฐบาล และไหลเข้าสู่ตลาดคริปโทเคอเรนซีแทน” เป็นมุมมองของนักวิเคราะห์ที่ได้มองเห็นแนวโน้มที่สามารถเป็นไปได้ในอนาคต ถ้าเราดูการเติบโตของเหรียญคริปโตเคอเรนซีที่ผ่านมาก็เห็นว่ามีการขึ้นสูงและลงสูงมาตลอด นักลงทุนส่วนใหญ่นั้นยังคงให้ความสำคัญในตลาดนี้อยู่เช่นกัน แต่จะเป็นการหมุนเงินมาลงทุนในช่วงเวลาเพื่อเก็งกำไร แล้วก็หมุนไปลงทุนในตลาดที่เสี่ยงน้อยกว่าในระยะกลาง และระยะยาวต่อไป