Nirmala Sitharaman รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ อินเดีย ได้กล่าวในขณะนำเสนองบประมาณของรัฐบาลกลางเมื่อวันอังคาร ว่าทาง อินเดีย จะเรียกเก็บภาษี 30% สำหรับรายได้จาก คริปโตเคอเรนซี และทรัพย์สินดิจิทัลอื่น ๆ

นอกเหนือจากการเก็บภาษีในการหารายได้จาก คริปโตเคอเรนซี และ non-fungible token ( NFTs ) แล้ว Sitharaman ยังกล่าวอีกว่าการขาดทุนจากการขายของพวกเขาไม่สามารถนำมาหักลบกับรายได้ได้ส่งผลให้การซื้อขายและการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลไม่เป็นที่น่าสนใจใน อินเดีย 

จากการประมาณการแล้ว ขนาดของอุตสาหกรรม คริปโตเคอเรนซี ใน อินเดีย มีนักลงทุนมากกว่า 15 ล้านถึง 20 คนใน อินเดีย และมีการถือครอง คริปโตเคอเรนซี รวมมูลค่ามากกว่า 4 ล้านล้านรูปี  ( ประมาณ 5.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ )

ผู้คนในแวดวง คริปโตเคอเรนซี ของ อินเดีย ก็ต่างคาดหวังว่า จะสามารถจัดตั้งมาตรการที่เป็นธรรมกับ นักเทรด และผู้ลงทุนมากขึ้น ซึ่งแม้ว่าจะเป็นมาตรการที่แสนจะเข้มงวดที่ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่นั้น อย่างน้อย ๆ มาตรการที่ดีก็จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม คริปโตเคอเรนซี นั้นเติบโตได้ดีมากยิ่งขึ้นใน อินเดีย

นักเทรด อินเดีย อาจจะต้องเสียมากกว่า 30% เมื่อรวมกับค่าธรรมเนียมแล้ว

“ภาษีเงินได้ 30% ที่เก็บจากทรัพย์สินดิจิทัล ดูเหมือนจะเป็นการเก็บภาษีที่สูงจนเกินไปแต่ท้ายที่สุดนั้นขั้นตอนในการเก็บภาษีนี้จะเป็นขั้นตอน เชิงบวกที่จะทำให้ คริปโตเคอเรนซี นั้นถูกกฎหมาย น่าจะเป็นแง่ดีสำหรับการยอมรับ คริปโตเคอเรนซี และ NFTs ในอนาคต”

Avinash Shekhar ผู้บริหารของ ZebPay บริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลได้กล่าวไว้ 

ที่ปรึกษาทางด้านภาษี ของ อินเดีย คาดว่านักเทรดอาจจะต้องจ่ายเงินมากกว่า 30% ของกำไรที่ทำได้จาก คริปโตเคอเรนซี เพื่อเป็นภาษีสำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 

Amit Maheshwar หุ้นส่วนของ AKM Global บริษัทด้านภาษี ได้บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า

“หากคุณทำกำไรได้จากการเทรด คริปโตเคอเรนซี 100 รูปี ซึ่งหากบวกกับภาษีที่ต้องเก็บ 30% แล้วยังมีค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายอยู่ทั้งหมดรวมแล้วจะอยู่ที่ประมาณ 42 รูปี”

นักเทรด คริปโตเคอเรนซี ใน อินเดีย ต่างคาดหวังว่าระบบภาษีใหม่จะส่งสัญญาณที่ดีเพื่อเป็นการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการและได้สร้างความมั่นใจให้กับบริษัทต่าง ๆ ว่าพวกเขาจะสามารถเข้ามาสู่ตลาดนี้ได้

“เราได้แต่หวังว่าการพัฒนาครั้งนี้จะขจัดความคลุมเครือของธนาคาร และอาจจะทำให้พวกเขาสามารถเปิดให้บริการทางการเงินแก่อุตสาหกรรม คริปโตเคอเรนซี ได้”

Nischal Shetty CEO ของบริษัท WazirX ได้กล่าวไว้

ธนาคารกลางของ อินเดีย ได้แสดงความกังวลที่ร้ายแรงเกี่ยวกับ คริปโตเคอเรนซี โดยอ้างว่า เป็นสกุลเงินที่มีความมั่นคงทางการเงิน ด้วยเหตุผลเดียวกันนี่เองทำให้ธนาคารหลาย ๆ ที่ ไม่กล้าที่จะเข้ามาลงทุนในโลกสกุลเงินดิจิทัล

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของ อินเดีย ยังกล่าวอีกว่าธนาคารกลางจะแนะนำสกุลเงินดิจิทัล ในปีงบประมาณหน้า โดยใช้บล็อกเชนและเทคโนโลยีอื่น ๆ สนับสนุน ซึ่งการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ดีเป็นอย่างมาก  สกุลเงินที่อาจจะนำไปสู่ระบบจัดการสกุลเงินที่มีประสิทธิภาพและราคาถูกลง

แหล่งข่าว: tribune.com