Binance ( ไบแนนซ์ ) เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสำหรับเทรดสินทรัพย์ดิจิทัล นับได้ว่าเป็นกระดานแลกเปลี่ยน cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ตามปริมาณการซื้อขาย คริปโตเคอเรนซี รายวัน ให้บริการ ซื้อ – ขายแลกเปลี่ยนคริปโต ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ Bitcoin, Ethereum และ เหรียญ Altcoin อื่น ๆ นับร้อยเหรียญ รองรับสกุลเงินต่าง ๆ ให้สามารถเข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนได้มากมาย ด้วยบริการที่มากมายครอบคลุมระบบนิเวศของเหรียญคริปโตกว่า 10 แบบ โดยทุก ๆ วันจะมีวอลลุ่มเทรดใน Binance คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านดอลลาร์ จากทั่วโลก
Binance มีโทเคนเป็นของตัวเอง
Binance ได้มีการพัฒนาโทเคน คริปโตเคอเรนซี ของตัวเอง 2 ตัว คือ
- Binance Coin – BNB เป็นโทเคนที่ทำงานแรกเริ่มบนบล็อกเชนของ Ethereum และถูกพัฒนาในภายหลังมาใช้ระบบของตนเองบน Binance chain และนับว่าเป็น cryptocurrency ที่มีการเติบโตสูงมากและครองมูลค่าตลาดเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในเวลานี้
- Binance USD – BUSD ถือเป็น stablecoin ที่ยึดราคาตามสกุลเงินดอลลาร์ ใช้สำหรับการแลกเปลี่ยนภายในกระดานแลกเปลี่ยนของ Binanace เป็นเหรียญที่ถูกตรึงไว้ในอัตราที่คงที่ 1 : 1 กับ USD
จุดเด่น - จุดด้อย ของ Binance
ด้วยความสามารถในการใช้งานที่มากมายหลากหลาย และมีจำนวนการซื้อขาย cryptocurrency เป็นจำนวนมาก Binance ได้รับการยอมรับจากผู้ใช้รวมทั้งชุมชนผู้ใช้เหรียญคริปโตทั้งโลก ที่มีการเติบโตเร็วและสูงมาก ขอนำเสนอ จุดเด่น – จุดด้อยของ Binance เพื่อเป็นข้อคิดให้กับผู้สนใจอยากใช้บริการของ Binance กับเขาบ้าง ดังนี้
จุดเด่นของ Binance
- ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมต่ำ Binance มีฟรีค่าธรรมเนียมการฝากเหรียญหลายประเภท ในกรณีค่าธรรมเนียมในการเทรดเหรียญคริปโต ถ้ามีจำนวนการทำธุรกรรมมากขึ้น จะได้เลื่อนชั้น ทำให้ค่าธรรมเนียมสามารถต่ำลงอีก และหากมีการถือครอง Binance Coin ( BNB ) อยู่ด้วย ก็จะได้รับสิทธิ์ในค่าธรรมเนียมการซื้อขายที่ต่ำกว่า
- เนื่องจาก Binance ถือได้ว่าเป็นตลาดใหญ่ของคนซื้อขายเหรียญคริปโต ความสามารถของแพลตฟอร์มในการรองรับการเทรดเพียงพอ รวมไปถึงการมีสภาพคล่องของเหรียญดียิ่งกว่าตลาดอื่น ๆ
- มีเหรียญ คริปโตเคอเรนซี ให้เทรดเยอะมาก สามารถจับคู่เทรดได้หลากหลาย ทั้งนี้เป็นเพราะ Binance มีการเปิดกว้างให้กับนักลงทุนที่ต้องการซื้อขาย Altcoins หรือเหรียญทางเลือกอื่นที่มีสภาพคล่องน้อย ซึ่งได้ผ่านการคัดกรองจาก Binance ว่าเป็นเหรียญทางเลือกที่มีความน่าเชื่อถือในระดับหนึ่ง ทำให้นักลงทุนมีทางเลือกมากขึ้น
- มีบริการที่หลากหลาย ให้บริการเกี่ยวกับเหรียญคริปโตอย่างครอบคลุม ทั้งการฝาก ซื้อขายแลกเปลี่ยน แบบครบวงจร มีตั้งแต่การซื้อขายแบบปกติ ใช้มาร์จิ้น ไปจนถึงฟิวเจอร์ส การสร้างเหรียญคริปโต และอื่น ๆ อีกมากมาย
- เปิดบัญชีง่าย วิธีการรับรองตัวตนที่ไม่ยุ่งยาก ไม่ต้องส่งเอกสารบัตรประจำตัวประชาชน ก็สามารถเทรดได้แล้ว
Binance จึงนับว่าเป็นแพลตฟอร์มหนึ่งที่มีครบทุกความต้องการ สะดวก และปลอดภัย สำหรับคนที่ชอบพอใน cryptocurrency สามารถทำทุกธุรกรรมทางการเงินได้ครบจบในที่เดียว
จุดด้อยของ Binance
- สำหรับประเทศไทย ตอนนี้ Binance ยังไม่รองรับการฝากเงินบาทเข้าบัญชีโดยตรง ที่สามารถทำได้ ก็โดยการใช้บริการ ระบบ P2P คือการที่ลูกค้าทำการแลกเปลี่ยนกันเอง หรือเป็นการซื้อเหรียญผ่านบัตรเครดิต
- เนื่องจาก Binance เป็นแพลตฟอร์มของต่างประเทศ ทำให้ไม่ถูกกำกับดูแลโดย ก.ล.ต. ของไทย ขณะที่บริษัทฯ ตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา จึงยังพูดไม่ได้ว่า Binance ได้การรับรองอย่างถูกกฎหมาย 100%
- ล่าสุด Binance ได้ระงับการให้บริการในระบบภาษาไทยตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2564 เป็นผลจากการที่ Binance ต้องการที่จะปรับการให้บริการตัวเองไม่ให้ขัดกับกฎระเบียบของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับนักลงทุนที่ไม่มีความถนัดทางด้านภาษาอังกฤษ
จนกว่าทาง Binance จะสามารถหาคู่ค้าที่เป็นบริษัทไทยเข้ามาเสริม ในการออกผลิตภัณฑ์มาให้เอื้ออำนวยกับนักลงทุนชาวไทย ดังเช่นมีข่าวออกมาในวันที่ 17 ม.ค. 2565 ในการลงนามบันทึกความร่วมมือของ Binance กับ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ( มหาชน ) หรือ GULF ในการที่จะร่วมมือกันในการศึกษา การทำธุรกิจซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อเป็นการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนของประเทศ คาดหวังกันว่า เราคงจะได้รับข่าวที่ดีในเร็ว ๆ นี้