รวบรวมเหตุการณ์ Rug Pull ในวงการ Game-Fi

รวบรวมเหตุการณ์ Rug Pull แสนน่าเจ็บใจในวงการ Game-Fi Part 2

หลังจากที่คราวที่แล้วเราได้นำเสนอเหตุการณ์ Rug Pull สุดเจ็บจี๊ดในวงการ Game-Fi ครั้งแรกไปแล้ว ก็คงมีเพื่อน ๆ หลายต่อหลายคน อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนั้นด้วยอย่างแน่นอน ซึ่งคราวนี้เรากลับมาอีกครั้งกับคอนเทนต์รวบรวมเหตุการณ์ Rug Pull สุดเจ็บแสบในวงการ Game-Fi มาให้ชมกันอีกครั้ง

รู้จักกับคำว่า Rug Pull

Rug Pull หรือปรากฎการณ์ ‘ล้มทั้งยืน’ เป็นคำศัพท์ที่ใช้ในวงการคริปโตเคอเรนซี มักเอาไว้เรียกเหตุการณ์ที่นักลงทุนถูกเจ้าของโปรเจคเทขายเหรียญใส่ก่อนเชิดเงินหนี หรือถูกเจ้าของแพลตฟอร์ม DeFi หรือ Game-Fi ปิดแพลตฟอร์มหนี เป็นต้น

Rug Pull แปลตรงตัวได้ว่า “การดึงพรม” เปรียบเทียบเหตุการณ์ที่นักลงทุนล้มทั้งยืนอย่างรุนแรงภายหลังถูกดึงพรม ( พรมคือ Liquidity Pool หรือสภาพคล่อง ) ออกไป

Crypto Blade

หนึ่งในเกมคลาสสิกที่ผู้เล่น Game-Fi หลาย ๆ คนเริ่มเล่นตั้งแต่ราคา 1 ดอลลาร์ จนมันพุ่งไป 140 ดอลลาร์ ก่อนจะร่วงเละมาเหลือแค่ 6 ดอลลาร์ เท่านั้น ล่าสุดก็เป็นเกมที่ถือได้ว่าแตกไปเรียบร้อย ถึงแม้ว่าตัวเกมจะยังเปิดให้บริการอยู่ก็ตาม ความผิดพลาดของเกมนี้คือไม่สามารถควบคุม Inflation ให้เป็นไปตามจำนวนผู้เล่นได้ เนื่องจากใครก็สามารถซื้อตัวละครมาเล่นได้แค่ซื้อเหรียญ SKILL มา ซ้ำร้ายเกมนี้ยังใช้ระบบ Oracle เพื่อตรึงราคาซื้อให้คงที่อยู่ในหน่วย USD ผลคือตอนเกมติดกระแส คนก็เกณฑ์กันเข้ามาเล่นอย่างกระจุยกระจาย ส่งผลให้ราคา SKILL สูงขึ้นจาก $1 เป็น $140 ภายในเวลาแค่ 2 สัปดาห์ และจากการที่ราคา SKILL สูงขึ้นทำให้มีจำนวนตัวละครถูกสร้างขึ้นจำนวนมาก ( เพราะเดิม 1 SKILL อาจซื้อได้ 1 ตัว แต่ตอนหลัง 1 SKILL ซื้อได้ 20 ตัว ) พอจำนวนตัวละครเยอะขึ้น จำนวนรางวัลที่จ่ายออกก็เลยสูงขึ้นตาม พอทุกคนได้รางวัลก็ต่างกันพาเทขายเทขาย และเนื่องจากทุกคนแห่เข้ามาพร้อมกัน พอได้รางวัลทุกคนก็ต่างพาเทขาย ทำให้ตัวเกมไม่สามารถหาเงินมาจ่ายให้คนมาเข้าทีหลังได้อีกเนื่องจากไม่มีใครมาเข้าเพิ่มแล้ว สุดท้ายพอไม่สามารถควบคุม Inflation ได้ เกมก็เลยตายลงทันทีภายในเวลาไม่ถึงเดือนหลังติดกระแสนั่นเอง

Crypto City

เป็นอีกหนึ่งเกมที่เรียกได้ว่าเกือบขึ้นไปถึงจุดสูงสุดของวงการ Game-Fi กันเลยทีเดียว เนื่องด้วยตัวเกมทำออกมาเข้าใจง่าย แค่คลิก ๆ ก็ได้เงินแล้ว ประกอบกับกระแสใน Community ที่มาแรงสยบทุกเกมเลยทีเดียว พิสูจน์ได้จากราคาของ Token ประจำเกมที่ราคาพุ่งไปกว่า 500% ในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น อีกทั้งยังมีการเปิดตัวเกมออกมาอย่างหลากหลายทั้ง Crypto Car และ Crypto Guard ซึ่งการล่มสลายของ Crypto City ที่หลาย ๆ คนออกมาพูดก็คือ จำนวนผู้เล่นที่สูงมากเกินไปในช่วง FOMO ส่งผลให้ตัวเกมไม่มี Reward Pool เพียงพอในการจะจ่ายผู้เล่น รวมไปถึงการมาของ Crypto Guard ที่ออกมาเร็วเกินไป จนส่งผลให้หลาย ๆ คนเทขายของในเกมเก่าเพื่อไปเกมใหม่กันมากขึ้น จึงเป็นเหตุให้ราคาตกลงในท้ายที่สุด และยังมีเหตุการณ์ต่าง ๆ อีกมากมาย ทั้งการปิดปรับปรุงตัวเกมหลายสัปดาห์ในช่วงก่อนเทศกาลตรุษจีน หรือแม้กระทั่งการที่อยู่ ๆ Certix บริษัทที่ทำหน้า Audit ให้โปรเจกต์ต่าง ๆ ใน Cryptocurrency ออกมาประกาศว่าตัวเกมมีการ Rug Pull เกิดขึ้น ถึงแม้จะออกมาชี้แจงภายหลังว่าเป็นการเข้าใจ แต่ตัวเกมก็เสียความน่าเชื่อถือไปเสียแล้ว

Mercenary

เป็นอีกเกมที่ขายฝันให้ผู้เล่นหลาย ๆ คนด้วยเครดิตที่ดีของทางทีมงาน ซึ่งมักจะไม่ค่อยเกิดเหตุการณ์ Rug Pull ในเกมที่มีทีมงานเปิดเผยหน้าตาและประวัติมากเท่าไหร่นัก แต่ไม่ใช่สำหรับ Mercenary เพราะอยู่ ๆ ในช่วงเวลาแค่พริบตาเดียว เหรียญจากราคา 11 ดอลลาร์ ก็ร่วงลงจนถึง 0 ดอลลาร์ ในเวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น หลังจากที่ราคาร่วง ตัวเกมก็ได้ปิดเว็บไซต์ รวมไปถึงช่องทางการติดต่อทั้งหมดอย่างหน้าตาเฉย เรียกได้ว่าเป็นเหตุการณ์ Rug Pull ที่เจ็บแสบมาก ๆ เพราะตัวเกมเปิดให้เล่นเพียงแค่ 11 วันเท่านั้น และถือเป็นเหตุการณ์ที่ตัวผู้พัฒนาจงใจทำเกมมาเพื่อ Rug Pull โดยเฉพาะเลย

เหตุการณ์แบบนี้เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากจะให้เกิดขึ้น แต่เราไม่สามารถควบคุมมันได้เลยจริง ๆ ทำได้เพียงศึกษาข้อมูลให้ดี ดูความน่าเชื่อถือต่าง ๆ จนเรามั่นใจว่าอยากลงทุนกับเกมนี้ ไม่ใช่เพียงเพราะไปฟังคนอื่นมาว่าได้เงินเยอะ แล้วก็อยากจะได้บ้าง เพราะใน Money Game คนที่มีความรู้และความพร้อมมากกว่าคือผู้ชนะเสมอ เพราะฉะนั้นก่อนลงทุน อย่าลืม DYOR ( Do Your Own Research ) ก่อนตัดสินใจลงทุนนะครับ